คนขึ้นเรือท่าวัดเทพลีลาบางตา จ่อเรียกวิศวกรติดตั้งถังก๊าซเรือโดยสาร"สอบ"

จากกรณีเรือโดยสารคลองแสนแสบ เกิดระเบิดที่บริเวณท่าน้ำวัดเทพลีลา ภายในซอยรามคำแหง 39 แขวงวังทองหลาง เขตบางกะปิ จนเป็นเหตุให้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ 67 ราย เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 6 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณท่าเรือวัดเทพลีลา ว่า ภายหลังจากเกิดเหตุเรือโดยสารคลองแสนแสบระเบิดขณะกำลังเข้าเทียบท่าเมื่อช่วงเช้าวานนี้(5 มี.ค.)จนเป็นเหตุให้ผู้โดยสารเจ็บจำนวนมาก ซึ่งบรรยากาศในช่วงเช้าวันนี้(6 มี.ค.)ยังคงมีประชาชนมารอใช้บริการเรือกันอยู่ตามปกติ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนที่มาใช้บริการมีน้อยลงมากจากช่วงเวลาปกติ อาจเป็นเพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย นอกจากนี้ยังคงมีประชาชนที่ทราบข่าวได้เดินมาดูบริเวณจุดที่เกิดเหตุ และให้ความสนใจถ่ายภาพเก็บไว้ รวมถึงพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์กันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามประชาชนที่มายืนรอเรือโดยสารบริเวณท่าเรือวัดเทพลีลา ได้รับการเปิดเผยว่า เดินทางด้วยเรือโดยสารเป็นประจำ ซึ่งปกติจะใช้วิธีการนั่งเรือโดยสารแทนการนั่งรถประจำทาง เนื่องจากความสะดวกรวดเร็ว แม้ต้องรอเรือนานกว่ารถโดยสาร แต่เมื่อเทียบกันแล้วระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางจะเร็วกว่า โดยทุกวันทั้งเช้า-เย็น จะต้องเดินทางด้วยเรือจากบริเวณท่าวัดเทพลีลา เพื่อเดินทางไปย่านทองหล่อ หรือประตูน้ำ ซึ่งในวันนี้เป็นวันหยุด เรือที่มาเทียบท่าจะรอประมาณ 5-10 นาที หากเป็นวันทำงานในช่วงเช้าตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 06.00-08.30 น. เรือก็มาจะเร็วกว่า จะมีประชาชนซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนทำงาน พนักงานห้างสรรพสินค้า นักศึกษา ฯลฯ มารอใช้บริการกันจำนวนมาก แม้ว่าลึกๆแล้วจะกลัวกับเหตุที่เกิดขึ้น แต่ก็จะยังคงใช้บริการเรือในการเดินทางอยู่
ส่วนคนอื่นก็อาจจะกลัวหรือเปลี่ยนใจไปใช้บริการขนส่งสาธารณะทางอื่นบ้าง สำหรับตนไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใดหลังเกิดเหตุการณ์เรือระเบิดขึ้น เพราะคิดว่าไม่ว่าจะเดินทางเส้นทางไหนทั้งเรือหรือใช้รถโดยสารสาธารณะก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้เหมือนกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้เรือมาช้ากว่าปกติน่าจะมาจากสาเหตุคำสั่งให้เรือที่ใช้พลังงาน 2 ระบบติดตั้งก๊าซแอลเอ็นจี จำนวน 30 ลำหยุดวิ่ง จากปกติที่มีเรือโดยสารวิ่งอยู่ทั้งหมด 72 ลำ

ด้าน พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.หัวหมาก กล่าวว่า พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ยังอยู่ระหว่างเร่งสอบปากคำผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเครื่องยนต์เรือรับ-ส่ง ผู้โดยสารระเบิด ก่อนหน้านี้ได้เร่งสอบปากคำคนขับเรือโดยสารลำเกิดเหตุ เจ้าของบริษัทครอบครัวขนส่ง 2002 จำกัด และคนที่เหตุการณ์แล้ว เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลใด แต่หากมีพยานหลักฐานยืนยันชัดเจน ว่าเป็นการขับเรือโดยประมาท ก็อาจมีการพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ขับเรือในฐานกระทำการโดยประมาทให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสต่อไป
พ.ต.อ.ศรายุทธ กล่าวอีกว่า ได้ตั้งชุดทำงานของพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เกี่ยวข้อง โดยสอบปากคำไปแล้ว 26 ปาก เป็นคนเจ็บ 22 ปาก ผู้เกี่ยวข้อง 4 ปาก คือคนขับเรือ พนักงานเก็บค่าโดยสาร เจ้าของกิจการ และวิศวกรที่ติดตั้งถังก๊าซ ซึ่งในวันนี้(6 มี.ค.) พนักงานสอบสวนจะสอบปากคำคนเจ็บอีก 19 ปากที่ยังพักรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสตอนนี้มี 4 ราย ต้องเฝ้าระวังเรื่องแผลติดเชื้อในห้องไอซียู เมื่อสอบปากคำครบถว้นสมบูรณ์แล้วค่อยมาสรุปรวมกับพยานหลักฐาน ทั้งนี้ทางวิศวกร ระบุว่า ระบบการทำงานของตัวเซฟตี้ ยังคงทำงานได้ตามปกติ ยังไม่ยืนยันว่าเหตุที่เกิดขึ้นมีสาเหตุจากอะไร ซึ่งต้องรอผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานทั้งหมดจากกองพิสูจน์หลักฐาน สำหรับผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้มีทั้งหมด 71 ราย หลายรายออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว เหลือเพียงที่ยังรักษาตัวอยู่ที่ 19 ราย