รู้ตัวหญิงนิรนามถูกฆ่าเผาทั้งเป็น คาดฝีมือสามีหึงโหด

ความคืบหน้าคดีเผาทั้งเป็นสาวนิรนาม และมีผู้พบศพเมื่อวันที่ 27 ก.พ. นั้น ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (27 ก.พ.) นางไสว ลุนชัยภา อายุ63ปี พร้อมบุตรสาว อาศัยอยู่เลขที่535/1ชุมชนหนองตุ3หลังวัดบ้านหนองตุ เทศบาลนครอุดรธานี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.นัทธกานต์ วรรณพันธ์ ร้อยเวร สภ.เมืองอุดรธานี ว่า น.ส.สุชาดา ลุนชัยภา อายุ23ปี ลูกสาวที่อาศัยอยู่บ้านเดียวกันได้หายออกจากบ้าน ไปตั้งแต่กลางดึกคืนวันพฤหัสบดีที่25กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สงสัยว่าอาจจะเป็นศพที่ถูกเผา
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำนางไสวฯ และบุตรสาว ไปดูหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ และเดินทางไปดูศพที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี พร้อมยืนยันว่าศพหญิงสาวที่ถูกเผา ในป่าละเมาะข้างศูนย์จัดการขยะ เทศบาลนครอุดรธานี เป็น น.ส.สุชาดา บุตรสาวจริง โดยเศษเสื้อยืดสีชมพูลายจุดแดง-เหลือง ,แหวนทองคำรูปหัวใจ ที่ผู้ตายซื้อมาสวมติดตัวนานแล้ว นอกจากนี้ยังยืนยันลายเศษผ้าปูที่นอน ตรงกับปลอกหมอน1ชิ้น ปลอกหมอนข้าง2ชิ้น ที่ยังเหลืออยู่ในห้องนอนผู้ตาย จึงให้นางไสวฯตรวจ ดีเอ็นเอ. ยืนยันทางวิทยาศาสตร์อีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านพักเลขที่535/1ชุมชนหนองตุ3พบกันนายมงคลชัย ลุนชัยพา อายุ35ปี พี่ชายพร้อมญาติ และเพื่อนบ้าน ได้นำดูห้องพักของ น.ส.สุชาดาฯ ที่อาศัยอยู่กับนายปรีชา มงคล อายุ40ปี สามีและลูกสาว2คน อายุ7และ3ขวบ ซึ่งมีบ้านในบริเวณเดียวกัน3หลัง อยู่อาศัยกันแบบครอบครัวใหญ่ โดย น.ส.สุชาดาฯ อาศัยอยู่ห้องด้านหน้าชั้นล่างของบ้านหลังแรก ภายในห้องพบหมอนข้างลายเดียวกันพบในที่เกิดเหตุ และรถ จยย.2คันของ น.ส.สุชาดาฯ และสามี
นายมงคลชัย ลุนชัยพา เล่าว่า น้องสาวและน้องเขยแต่งงานกันเกือบ10ปี มีลูกสาวด้วยกัน2คน น้องสาวเป็นลูกจ้างขายอาหารที่ รร.ประจักษ์ศิลปาคม และตอนเย็นขายรองเท้าที่เซ็นเตอร์พร้อย ส่วนสามีเป็นช่างซ่อมสร้างบ้านทั่วไป และมีวินสกายแล๊ปที่ตลาดรังษิณา ทั้งสองเคยสมัครไปทำงานเกาหลี ภรรยาสอบภาษาผ่าน สามีไม่ผ่าน และระยะหลังทั้งสองมีปัญหา มีผู้ชายมาติดพันน้องสาว แต่ก็ไม่เคยทะเลาะมีปากเสียงกันให้เห็น แม่ก็เคยเตือนน้องสาว
สัปดาห์ก่อนน้องสาวไปกรุงเทพฯ ทำให้สามีไม่ค่อยสบายใจ พอกลับมาก็บรรยากาศไม่ดี จนเย็นวันศุกร์จึงรู้ว่าน้องสาวหายไป ทบทวนกันมั่นใจว่าหายไปคืนวันพฤหัส เพราะเช้ามาไม่มีใครเห็น นึกว่าออกไปทำงานตั้งแต่เช้า ซึ่งในช่วงเช้านายปรีชาฯสามี ยังมาพาลูกสาว2คนไป โดยให้ญาติไปส่งที่ บขส. และเช้าวันเสาร์นายปรีชาฯ กลับมาที่บ้านมาเอารถสกายแล๊ป และขนที่นอนใส่รถออกไป แล้วไม่ได้รับการติดต่ออีกเลย เมื่อเห็นข่าวคืนวันเสาร์จึงไปพบตำรวจ
พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธ์ ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า ชัดเจนว่าผู้เสียชีวิตถูกเผาคือ น.ส.สุชาดาฯ ผู้ต้องสงสัยก็คือนายปรีชาฯสามี ขณะนี้ได้หลบออกจากบ้าน ไปพร้อมกับบุตรสาว2คน จากการติดตามคนร้ายพบว่า นายปรีชาฯพาบุตรสาวไปฝากไว้กับญาติ ในจังหวัดหนึ่งทางอีสานกลาง และย้อนกลับมาบ้านภรรยา ซึ่งเป็นช่วงที่มีผู้พบศพพอดีจึงหลบหนีไป คาดว่าหากไม่หลบอยู่แถวนี้ ก็ต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ตำรวจได้แบ่งสายกันติดตามแล้ว