แม่ใจโหด สารภาพแทงทารก 14 แผล อ้างแท้งไม่อยากมีลูกคนที่4

กรณีทารกแรกเกิดเพศชายถูกแทง 14 แผล ถูกนำไปฝังดินภายในป่ายูคาลิปตัสในพื้นที่บ้านโนนสวรค์ หมู่ 3 ต.คอนฉิม อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น กระทั่ง นางขจิตร ครองยุทธ อายุ 54 ปี ภรรยาผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ต้อนวัวไปเลี้ยงที่ทุ่งนาไปพบเข้า จึงเข้าช่วยเหลือนำร่างขึ้นจากหลุมและนำตัวส่งโรงพยาบาลแวงใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา แต่อาการทารกสาหัสถูกส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลขอนแก่น จนเป็นข่าวครึกโครมสะเทือนขวัญนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.สุภากร คำสิงห์นอก รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ได้เรียกประชุมชุดคลี่คลายคดี ทั้งตำรวจพิสูจน์หลักฐานของภูธรจังหวัดและสภ.แวงใหญ่ ชุดสืบสวนภาค 4 และตำรวจจาก สภ.ชนบท สภ.โนนศิลา สภ.พล สภ.แวงน้อย และสภ.แวงใหญ่ รวมทั้งศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 เพื่อตรวจสอบดีเอ็นเอที่ติดอยู่ที่เสื้อใช้ห่อร่างทารก เพื่อใช้เป็นเบาะแสหาคนร้าย หลังจากนั้นได้กระจายกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียด ต่อมาช่วงบ่ายรองผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 4 และชุดคลี่คลายคดีได้ร่วมประชุมที่ สภ.แวงใหญ่ เพื่อสรุปแนวทางการสืบสวนอีกครั้ง
พ.ต.อ.สุภากรเปิดเผยถึงกรณีควบคุมตัวหญิงต้องสงสัยซึ่งเป็นคนในพื้นที่ไปสอบปากคำเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ว่า หญิงรายนี้จากการสืบสวนทราบว่าเคยตั้งท้องและแท้งบุตรมาก่อน อีกทั้งในวันเกิดเหตุมีผู้พบหญิงคนดังกล่าววนเวียนอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ แต่จากการสอบสวนหญิงต้องสงสัยอ้างว่าเข้าไปตัดไม้เพื่อนำไปทำฟืนเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวส่งตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เพื่อหาความผิดปกติ รวมทั้งตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งจะต้องรอผลการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ต่อมาเวลา 20.00 น. พ.ต.อ.สุภากรเปิดเผยความคืบหน้าคดีว่า นางมล (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี ชาวบ้านใหม่นาเพียง ต.ดอนฉิม อ.แวงใหญ่ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวและตรวจดีเอ็นเอก่อนหน้านี้ หลังถูกกดดันตรวจดีเอ็นเอไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จึงยอมสารภาพว่าเป็นแม่ทารกที่ถูกแทง 14 แผลแล้วนำไปฝังดิน โดยบอกว่าไม่ต้องการมีลูกอีก เพราะมีลูกแล้ว 3 คน ขณะตั้งครรภ์ก็ไม่มีใครรู้แม้กระทั่งสามี เพราะไม่ค่อยมีเพศสัมพันธ์กันบ่อยนัก และเมื่อท้องก็จะสวมเสื้อตัวใหญ่เหมือนคนอ้วนขึ้น และบอกว่าเด็กแท้งออกมาก่อนกำหนด คิดว่าตายแล้วและไม่ต้องการให้ใครรู้ จึงใช้ไม้ทิ่มแทงแล้วนำร่างไปฝังที่บริเวณป่ายูคาบ้านโนนสวรรค์ อยู่ห่างจากบ้านพัก 5-7 กิโลเมตร ทั้งหมดทำลงไปโดยลำพังไม่มีคนอื่นรู้เห็น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจ เตรียมสอบปากคำเพิ่มเติมและจะแถลงข่าวเรื่องนี้ต่อไป
ส่วนความคืบหน้าการรักษาอาการทารก โรงพยาบาลขอนแก่นได้รายงานอาการล่าสุดว่า ทารกยังรู้สึกตัวดี แต่ยังต้องใส่ท่อช่วยหายใจและเครื่องช่วยหายใจ หลังเริ่มลดเครื่องช่วยหายใจและเปลี่ยนตำแหน่งใส่สายระบายลมจากช่องเหยื่อหุ้มปอด เนื่องจากภาพถ่ายรังสีทรวงอกยังมีลมที่ช่องเยื่อหุ้มปอด แต่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ ยังคงงดน้ำและอาหาร ให้สารละลายและยาปฏิชีวนะ 3 ชนิดทางหลอดเลือดดำ ไม่มีภาวะซีด ส่วนปัญหาโพแทสเซียมและน้ำตาลในเลือดต่ำได้รับการแก้ไขแล้ว อย่างไรก็ตามแผนการรักษาขณะนี้คือการเฝ้าระวังภาวะติดเชื้อ และลดเครื่องช่วยหายใจขณะเดียวกันโรงพยาบาลขอนแก่นได้รับโทรศัพท์จากผู้มีจิตศรัทธาที่ต้องการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือทารกรายนี้เป็นจำนวนมาก จึงแจ้งให้ทราบว่า ทางโรงพยาบาลไม่มีการจัดตั้งกองทุนใดๆ แต่หากจะประสงค์บริจาคโรงพยาบาลยินดีรวบรวมสิ่งของบริจาคส่งต่อให้หน่วยงานสุดท้ายที่จะรับเด็กไปอุปการะต่อไป