คุมทำแผน "แม่" แทงลูกชาย 14 แผลฝังดิน ท่ามกลางเสียงสาบแช่งของชาวบ้าน
เมื่อช่วงสายตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมตำรวจภูธรแวงใหญ่ นำตัว นางสาวสุดา หรือ มล ทางดี วัย 42 ปี บ้านใหม่นาเพียง อ.แวงใหญ่ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณทุ่งนา หลังก่อเหตุฆ่าและฝังเด็กแรกเกิดลูกชายของเธอเอง ระหว่างทำแผนท่ามกลางความสนใจของชาวบ้านโนนสวรรค์ และใกล้เคียง ต่างเข้ามาขอดูหน้า ขณะเดียวกันในบริเวณใกล้ตำรวจได้กั้นไม่ให้ชาวบ้านเข้าใกล้ ท่ามกลางเสียงสาบแช่งของชาวบ้าน
ผู้ต้องหารับสารภาพว่า มีอาชีพรับจ้างตัดไม้ยูคาลิปตัสกับสามี ระหว่างที่ตัดไม้ เกิดเจ็บท้องกะทันหันและได้คลอดเป็นเพศชาย จึงตัดสินใจใช้เศษไม้ตัดสายสะดือเด็กออก และกลัวว่าสามีจะรู้ว่าคลอดลูก เพราะปิดบังไม่ให้สามี และเพื่อนบ้านรู้ ไม่สามารถเลี้ยงลูกได้ มีฐานะยากจน จึงได้นำถุงพลาสติกที่ตกอยู่บริเวณนั้นมาผูกรัดคอเด็กทารก พร้อมกับนำกิ่งไม้บริเวณที่เกิดเหตุแทงตามร่างกายหลายครั้ง จนแน่นิ่งคิดว่าเด็กเสียชีวิตไปแล้ว ก่อนนำร่างเด็กไปฝังดิน พร้อมกับนำดินและเศษไม้มากลบร่างเด็กทารกไว้ และกลับบ้านพร้อมสามี
ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหา พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยทรมาณ หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ทอดทิ้งเด็กอายุยังไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตัวเอง ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแลจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาฝากขังศาลจังหวัดพล
พ.ต.อ.สุภากร คำสิงห์นอก รองผบก.จ.ขอนแก่น บอกว่า นางมล ถูกควบคุมตัวและตรวจดีเอ็นเอก่อนหน้านี้ หลังถูกกดดันจากการตรวจดีเอ็นเอ จนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จึงสารภาพว่าเป็นแม่ทารก เพราะไม่ต้องการมีลูกชายอีก หลังมีมาแล้ว 3 คน ขณะช่วงตั้งครรภ์ก็ไม่มีใครรู้ แม้กระทั่งสามี
ส่วนอาการของ "น้องไอดิน" รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ขอนแก่น ยังทรงตัวและรู้สึกตัวดี ใส่เครื่องช่วยหายใจ แพทย์สั่งงดเยี่ยมอาการ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยแนวทางการรักษายังคงเฝ้าดูอาการไม่ให้ติดเชื้อ และพยายามลดเครื่องช่วยหายใจให้น้องไอดินสามารถหายใจด้วยตัวเอง ขณะนี้มีผู้ใจบุญที่ทราบข่าวพากันขอตัวน้องไอดินไปอุปถัมภ์เลี้ยงดูเป็นบุตรบุญธรรมเป็นจำนวนมาก นำผ้าอ้อมสำเร็จรูป เงิดสดมอบให้ รวมกว่า 52,000 บาท ซึ่งทางโรงพยาบาลจะเก็บรวบรวมไว้ให้ เมื่อน้องไอดินได้ที่อยู่มั่นคงก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่ดูแลต่อไป