นายศุภภัทร์พจน์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีทางกรมศุลกากรออกมาระบุเตรียมเก็บภาษีย้อนหลังกรณีการนำเข้าและจดประกอบรถคันดังกล่าวนั้นตามกฎหมายเมื่อการนำเข้าและจดประกอบรถไม่ถูกต้องตามกฎหมาย กรมศุลากรก็ต้องไปดำเนินการเรียกเก็บภาษีย้อนหลังกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับทั้งสองส่วนนี้ ทางวัดไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเพราะสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ครอบครองรถโดยไม่รู้ว่าการนำเข้าและจดประกอบรถคันดังกล่าวไม่ถูกต้อง และหากจะมีการเก็บภาษีผู้ครอบครองรถย้อนหลัง ขณะนี้ตามกฎหมายกรมศุลกากรยังไม่สามารถดำเนินการในเรื่องได้เพราะดีเอสไอยังไม่มีการตรวจสอบเพิ่มเติมในเรื่องนี้ และยังไม่ได้แจ้งมายังวัดเพื่อเข้ามาตรวจสอบเพิ่มเติมกรณีการครอบครองรถ
นายศุภภัทร์พจน์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนขั้นตอนการยื่นจดทะเบียนรถนั้น เรื่องนี้ฝ่ายกฎหมายวัดปากน้ำภาษีเจริญได้ชี้แจงต่อดีเอสไอตั้งแต่ต้นแล้วว่า ผู้บริจาคได้ซื้อรถคันดังกล่าวจากนายวิชาญ รัษฐปานะ ซึ่งนายวิชาญจะให้ใครนำเข้า หรือจะให้ใครจดประกอบถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง ทางผู้บริจาคก็ไม่ทราบ
เมื่อผู้บริจาคนำรถคันดังกล่าวมาถวายแด่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ท่านก็ไม่ทราบว่ารถดังกล่าวจะนำเข้า หรือมีกระบวนการจดประกอบที่ถูกต้องหรือไม่ ทางผู้บริจาคและสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ก็ไม่ทราบว่านายวิชาญให้ใครนำเข้าและจดประกอบอย่างไร เพราะรถเป็นราคาเหมาจ่าย จนกระทั่งนำรถไปจดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบก และนายวิชาญนำรถคันนี้พร้อมคู่มือการจดทะเบียนมามอบให้แก่ผู้บริจาค