svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ทพญ.หนีทุน!เพื่อนอ่วมค้ำ8ล้าน

30 มกราคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ชาวเน็ตสวดยับ อ.สาวหนีทุนไร้สำนึกปล่อยให้อาจารย์-หมอ-เพื่อนใช้หนี้ 8 ล้านในฐานะผู้ค้ำประกัน โพสต์ล่าตัวขุดประวัติแฉ ทพ.หนุ่มทำใจ จำนองบ้าน-กู้ยืมชดใช้ให้ครบ

กลายเป็นข่าวที่สังคมให้ความสนใจ หลังจากโลกออนไลน์ได้ส่งต่อข้อมูลของทันตแพทย์ท่านหนึ่งได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ ทพ.เผด็จ หมอทอม เพื่อขอความเป็นธรรมจากสังคมกรณีต้องรับผิดชอบชดใช้หนี้ให้แก่มหาวิทยาลัยมหิดลร่วม 2 ล้านบาท จากการไปลงนามค้ำประกันการไปศึกษาต่อในต่างประเทศของอาจารย์สาวรายหนึ่งที่ใช้ทุนเรียนของมหาวิทยาลัย แต่ต่อมาปรากฏว่า อาจารย์สาวคนดังกล่าวไม่เดินทางกลับมาประเทศเพื่อใช้ทุน โดยข้อมูลที่ ทพ.เผด็จโพสต์มีใจความว่า
สิ้นสุดสักทีกับกรรมเก่า ผมได้ชดใช้ให้แล้ว รวมยอดกับที่ต้องชำระให้อีกร่วมล้าน กับการค้ำประกัน นางสาว....อดีตอาจารย์ภาควิชาทันตกรรมสำหรับเด็ก คณะทันตแพทย์ ม.มหิดล ผู้ซึ่งรับทุนศึกษาต่อที่อเมริกา โดยมีผมซึ่งเข้ามาเรียนที่มหิดลในฐานะคนรู้จักแต่ด้วยความที่เห็นแก่คณะและวิชาชีพจึงยอมค้ำประกันร่วมกับอาจารย์และเพื่อนร่วมงานและเพื่อนอีกคนของนางสาว....หวังว่าเขาจะกลับมาทำประโยชน์แก่ส่วนรวม แต่สิ่งที่ผมและทุกคนได้รับคือบอกว่า ไม่มีเงิน ทั้งๆ ที่เขาทำงานเป็นนักวิจัยที่ ม.ฮาร์วาร์ด รับเงินเดือนสูง อยู่อพาร์ตเมนต์หรูหราในอเมริกา เขาทำได้แม้อาจารย์ผู้สั่งสอน และสนับสนุนให้ได้เรียน ผู้ร่วมงาน เพื่อน อย่างไม่ละอายแก่ใจ พ่อของเขาและญาติพี่น้องก็ไม่สนใจ เขาเคยโทรหาผมแค่ครั้งเดียวว่าจะไม่ทำให้ผมเดือดร้อน ผมยังต้องส่งเสียลูกอีก 4 คน แต่ผมต้องนำเงินมาชำระแทนเขา จึงขอให้เรื่องนี้เตือนสติแก่ผู้ที่จะค้ำประกันใคร การศึกษาและชาติตระกูลไม่ได้ช่วยอะไร เขาวางแผนล่วงหน้าแล้วให้พ่อเขารับผิดชอบน้อยที่สุดและมาชดใช้ให้หมดแต่ไม่ยอมชดใช้ให้คนอื่น ช่วยแชร์กันนะครับ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ และผู้ที่จะทำธุรกรรมกับคนในครอบครัวนี้หรือบุคคลอื่น แม้ท่านจะปรารถนาดีก็ตาม

ทพญ.หนีทุน!เพื่อนอ่วมค้ำ8ล้าน

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก ทพ.เผด็จ หมอทอม ออกมาระบุว่า ขณะนี้ได้ตั้งทนาย พร้อมส่งจดหมายแจ้งเรื่องดังกล่าวไปถึงอาจารย์ที่เป็นคู่กรณีและมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ปรากฏว่าอาจารย์คนดังกล่าวได้ตั้งทนายสู้คดี ทั้งยังข่มขู่ทนายของตนด้วย ส่วนทางด้านมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมีจดหมายตอบกลับมาว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัว จึงไม่สามารถเข้ามาช่วยจัดการได้
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับทันตแพทย์ที่โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวพบว่า ทันตแพทย์คนดังกล่าวชื่อจริงว่า นายเผด็จ พูลวิทยกิจ ปัจจุบันเป็นทันตแพทย์อยู่คลินิกแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี อย่างไรก็ตามภายหลังเรื่องดังกล่าวถูกแชร์ออกไปอย่างต่อเนื่อง ปรากฏว่า ข้อความที่ ทพ.เผด็จโพสต์ออกไปถูกนำไปตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ชื่อดังต่างๆ โดยมีผู้เข้ามาแสดงความเห็นกันเป็นจำนวนมาก และให้กำลังใจกลุ่มนายแพทย์ที่ต้องไปค้ำประกันด้วยความเห็นใจ
ขณะที่ชาวเน็ตจำนวนมากออกมาตำหนิพฤติการณ์ของอาจารย์สาวหนีทุนคนดังกล่าว โดยบางรายเสนอตามหาตัวอาจารย์หญิงคนนี้มาชดใช้สิ่งที่กระทำ อาทิ ไม่รู้จะพูดอย่างไรนะ แต่ขอถามว่า ก่อนที่จะตัดสินใจขอทุนไป ต้องรู้อยู่แล้วว่า ต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง เงื่อนไขเป็นอย่างไรบ้าง ถ้ารับไม่ได้ ก็ไม่ต้องไป ผมว่าแบบนี้มันไม่ถูกต้อง
น่าจะประกาศชื่อ กฎหมายทำอะไรไม่ได้ก็ให้สังคมลงโทษ ต้องช่วยกันตามหาตัวคนนี้ เห็นแก่ตัวมากการศึกษาไม่ได้ทำให้จิตใจสูงขึ้นทำได้แม้กระทั่งผู้มีพระคุณสนับสนุนให้ได้เรียน หมดศรัทธาในมนุษยชาติเลย ทำแบบนี้ แล้วได้ดิบได้ดีที่บอสตัน เวรกรรมไม่มีจริง บางครั้งกับบางคนการศึกษาก็ไม่สามารถยกระดับจิตใจเขาได้หรอก
ใครมีรูปเอามาเลยครับ จะแชร์ จนมันไม่มีที่ยืนบนสังคมไปเลย อยากเห็นหนังหน้า คนค้ำไม่ได้อะไรเลย กลับต้องมีภาวะเสี่ยงกว่าผู้กู้ ซะงั้น กฎหมายระบบนี้ น่าจะเอาออกไปสักที ไม่ว่าจะทำไร หาแต่คนค้ำอยู่นั่นแหละ มันบากใจนะคนค้ำ
สิ่งที่ไม่ถูกต้องที่สุด ของเรื่องนี้คือ อันดับ 1 ค่าปรับเยอะไป 3 เท่า อันดับ 2 ควรไปไล่ยึดทรัพย์สินคนเป็นหนี้จริงๆ ก่อน เขาทำอย่างไรกัับเราลูกเขาก็ทำกัับเขาอย่างนั้น เราขอให้คุณหมอใจดีขอให้มีความสุขค่ะ เราทำดีสิ่งที่ดีๆๆ สิ่งนั้นจะย้อนมาหาเราค่ะ
คนทำไม่ดี ไม่ใช่เรื่องของเวรกรรม มันเป็นเรื่องของจิตใจ ไม่ซื่อตรง ไม่สำนึกในบุญคุณของผู้ที่สนับสนุนให้ตนมีความก้าวหน้าต่อไปในอนาคต สรุปคือ คนมันเลว ต้องขออภัยสำหรับท่านที่กล่าวถึงเรื่องเวรกรรม ไม่มีเจตนาดูหมิ่นใดๆ นะคะ
ขณะที่บางเว็บไซต์ก็ออกมาแฉถึงประวัติความเป็นมาของอาจารย์สาวที่หนีใช้ทุนรายนี้โดยขุดคุ้ยประวัติให้ชาวเน็ตได้รับรู้ถึงพฤติการณ์ว่า อาจารย์สาวผู้หนีทุนมีชื่ออักษรย่อว่า ด ขอทุนคณะไปเรียนต่อที่ฮาร์วาร์ด ป.โท แต่ต้องหาคนค้ำประกัน จึงไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อน อาจารย์ รุ่นพี่ ให้มาช่วยค้ำประกันให้ หลังจากนั้นอาจารย์หญิงรายนี้ก็ไปขยายทุนเป็น ป.เอก และหลังเรียน ป.เอก จบแล้ว ก็แต่งงานกับหนุ่มอเมริกัน จดทะเบียนเปลี่ยนสัญชาติ และไม่กลับมาใช้ทุน ส่วนจำนวนทุนที่ใช้ไปอยู่ที่ประมาณ 8 ล้านบาท ตามสัญญาต้องชดใช้ 3 เท่า คือ 30 ล้านบาท หลังจากที่เกิดปัญหาขึ้น ทางฝ่ายผู้ค้ำประกันได้พยายามต่อสู้ กระทั่งได้ข้อยุติให้ชดใช้เท่ากับเงินทุนที่ส่งให้ประมาณ 8 ล้านบาท โดยหารกัน 4 คน ซึ่งการต่อสู้ยืดเยื้อและบานปลายมาตลอด เพราะทุนคิดเป็นดอลลาร์สหรัฐ มีช่วงเปลี่ยนค่าเงินอีกทำให้เงินที่ต้องชดใช้เพิ่มขึ้นอีก
ด้าน นพ.เผด็จ พูลวิทยกิจ ใหัสัมภาษณ์ในรายการเจาะข่าวเด่น ทางช่อง 3 ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า เมื่อ 20 ปีก่อนตอนนั้นเป็นข้าราชการสาธารณสุข และได้ไปเซ็นค้ำประกันให้แก่อาจารย์ท่านหนึ่งในคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อรับทุนการศึกษาไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ แต่ปรากฏว่าอาจารย์ผู้หญิงท่านนี้เมื่อเรียนจบแล้วก็ไม่ยอมกลับมาใช้ทุนที่ประเทศไทย โดยเลือกทำงานที่ประเทศอเมริกา เมื่อเป็นเช่นนี้ในฐานะผู้ค้ำประกันจึงต้องเป็นผู้ใช้เงินทุนเรียนแทนอาจารย์ผู้หญิงคนดังกล่าวร่วมกับผู้ค้ำประกันอีก 3 คน จำนวนกว่า 8 ล้านบาท
อาจารย์หญิงคนนี้แจ้งความจำนงว่าจะไม่กลับมา และขอลาออกจากการเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยมหิดล โดยปัจจุบันเธอเป็นหมอฟัน และเป็นนักวิจัยของมหาวิทยาลัยอันดัับ 1 ของประเทศอเมริกา และเท่าที่ทราบมาพบว่า อาจารย์หญิงคนนี้มีชีวิตที่ดีอยู่ในอพาร์ตเมนต์ที่หรูหราในบอสตัน ซึ่งผู้ค้ำประกันทุกคนต่างเดือดร้อนถึงขนาดต้องนำบ้านไปจำนองและยื่นกู้เพื่อนำเงินมาใช้ในส่วนนี้ ขณะที่ตนก็ทำเรื่องยื่นกู้เช่นกัน โดยจ่ายเงินจำนวน 2 ล้านบาทไปให้ทางมหาวิทยาลัยมหิดลแล้ว ยืนยันว่าสิ่งที่ทำลงไปไม่ได้เสียใจ เราทำด้วยความปรารถนาดี วันที่ผมเซ็นค้ำประกัน ผมไม่ได้รู้จักอะไรเป็นการส่วนตัวกับอาจารย์หญิงคนนี้ เพราะรู้จัดผ่านอาจารย์ท่านหนึ่ง แต่ผมทำเพื่อวิชาชีพ เพื่อคณะ ผมมองว่าเป็นกรรมเก่า หากย้อนเวลาไปได้ก็ยังจะเซ็นให้อยู่ดี ตอนผมเซ็นผมมองว่า การศึกษาดี ชาติตระกูลดี ไม่น่าจะทำกันอยางนี้
 ส่วนตัวมองว่า เรื่องอย่างนี้ในวงการอื่นน่าจะมีเหมือนกัน แต่ในวงการแพทย์เราไม่เคยเจอ กล้าทำได้อย่างไร เพราะคนที่ค้ำประกันเป็นถึงอาจารย์ที่ทำเรื่องให้เขาไปเรียน ไม่อยากเชื่อว่าจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ แม้กระทั่งตัวผมเอง อาจารย์ผู้หญิงคนนี้ยังพูดเมื่อ 10 ปีก่อน หลังจากไม่กลับมาใช้ทุนว่า พี่หนูจะไม่ทำให้เดือดร้อน ผมก็ได้พูดว่า ครับ เพราะพูดได้แค่นี้ แต่ทำใจไว้แล้ว โดยก่อนหน้านี้ผมได้ทยอยจ่ายเงินไปเดือนละหมื่นสาม สิ่งที่โพสต์ไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร แต่ต้องการระบาย โดยโพสต์ในที่ส่วนตัวไม่ใช่สาธารณะ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นถูกคนแชร์ออกไปสู่สาธารณะ ส่วนตัวถือว่า เป็นกรรมเก่าที่สร้างไว้ เรื่องนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ว่า คนที่มีการศึกษาดี ชาติตระกูล ไม่ได้หมายความว่า จะทำเรื่องอย่างนี้ไม่ได้

logoline