svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ย้อนรอย พรบ.ทารุณกรรมสัตว์ 1 ปีเจอคุกแล้ว 5 ราย

29 มกราคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

จากกรณีนายยลดา จำปาศรี อายุ 22 ปี สาวประเภทสอง ผู้ต้องหาทำการทารุณกรรมสัตว์ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสัตว์ โดยการโยนสุนัขพันธ์ชิวาวา ของเพื่อนสาวลงจากห้องพักชั้น 5 ที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ย่านวังทองหลางตายคาที่ จำเลยรับสารภาพลดโทษเหลือ จำคุก 2 เดือน ไม่รอลงอาญา เป็นบรรทัดฐานทางสังคมในคดีทารุณกรรมสัตว์ ถือเป็นเรื่องน่าสลดใจใครหลายคนในสังคมมาก

โดย พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ถูกกำเนิดขึ้นมาและมีผลบังคับใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.57 และวันนี้เราจะมาย้อนรอย คดีผู้ต้องหาที่ทำผิดตามพ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ จนต้องโทษจำคุกปี 2558 ที่ผ่านมาว่ามีคดีอะไรบ้าง

เริ่มกันที่1.คดีสุนัขถูกฟันปากแหว่ง(6 ม.ค.58)ที่จ.หนองคาย เจ้าตูบตัวนี้ต้องเย็บแผลถึงสามชั้น มากกว่า 100 เข็ม ศาลตัดสินให้จำคุก 1 ปี ปรับ 2,000 บาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา
จากกรณีที่ นายคำดี โคตรถา ผู้กระทำความผิดในคดีใช้มีดฟันใบหน้าด้านขวาของสุนัขเพศผู้ ชื่อ ก้านกล้วย อายุ 1 ปีเศษของ นายสายยนต์ คำภูแก้ว อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 6 บ้านนาข่า ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย จนได้รับบาดเจ็บนั้น ล่าสุด ศาลจังหวัดหนองคายได้พิจารณาความผิดของ นายคำดี แล้ว โดยได้ตัดสินจำคุก 1 ปี แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี ปรับ 2,000 บาท

2. คดีวางยาฆ่าสุนัข(23 ม.ค.58)ที่จ.ตาก ผู้ต้องหามีความผิด 2 กระทงๆละ 6,000 บาท โทษจำคุก 4 เดือน แต่จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญา 1 ปี ส่วนโทษปรับลดให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือแค่ 6,000 บาท
จากกรณีที่มีคนวางยาเบื่อสุนัขของนายนายเอกลักษณ์ อุ่นแก้ว อายุ 28ปี อยู่บ้านเลขที่ 492 ต.พระธาตุผาแดง อ.แม่สอด จ.ตาก จนมีสุนัขแม่พันธุ์บางแก้ว และชิสุ รวมถึงลูกสุนัขที่เลี้ยงไว้ภายในบ้าน เสียชีวิตไปถึง 4 ตัว เจ้าของสุนัขจึงได้แจ้งความ เพื่อเอาผิดกับผู้ก่อเหตุนั้น
นายทวีชัย ตันยี่ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาในคดีวางยาเบื่อสุนัขพันธุ์บางแก้วของนายเอกลักษณ์ อุ่นแก้ว อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 492 ต.พระธาตุผาแดง อ.แม่สอด จ.ตาก จนเสียชีวิตไป 4 ตัว โดยศาลพิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นว่า จำเลยคือนายทวีชัยกระทำการทารุณกรรมสัตว์ อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ ที่มีผลบังคับใช้แล้ว มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และทำให้เสียทรัพย์ จึงลงโทษปรับกระทงละ 6,000 บาท สองกระทงรวมเป็นเงินค่าปรับ 12,000 บาท โทษจำคุกเป็นเวลา 4 เดือน แต่จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และจำเลยไม่เคยทำผิดมาก่อน โทษจำให้รอลงอาญาไว้เป็นเวลา 1 ปี ส่วนโทษปรับก็ลดให้กึ่งหนึ่ง คงปรับแค่ 6,000 บาท.
3.คดีถลกกินเนื้อสุนัข (9 ก.ค.58)จ.มุกดาหาร ศาลพิพากษาตัดสินจำคุกโดยไม่รอลงอาญา โทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 10,000 บาท
โดยผู้ต้องหา 2 รายร่วมกันฆ่าสุนัข และถ่ายคลิปวิดีโอ แล้วนำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ค เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา และทางตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่บ้านพัก เมื่อวันที่ 24 พ.ค.58 ศาลได้พิพากษาตัดสิน นายวิทยา ไชยยันต์ อายุ 29 ปี จำเลยที่ 1 มือโพสต์คลิปฆ่าโหดสุนัขในเฟซบุ๊ค จำคุก 3 เดือน ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา ส่วน นายเสนอ รูปงาม จำเลยที่ 2 มือสังหารสุนัข ศาลตัดสินจำคุก 3 เดือน ปรับ 10,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา และภายหลังฟังคำตัดสิน จำเลยทั้ง 2 ยอมรับในคำพิพากษา ไม่ยื่นอุทธรณ์สู้คดีแต่อย่างใด

4 คดีทุบหัวลูกแมว (2 ส.ค.58)ศาลได้ตัดสินลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 20,000 บาท รับสารภาพเหลือกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน ปรับ 10,000 บาท ควบคุมความประพฤติและให้รายงานตัวทุกๆ 3 เดือนภายใน 1 ปี พร้อมชดใช้ค่ารักษาพยาบาลตามยอดจริงด้วย
ผู้อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 864/18-19 ได้ทำร้ายลูกแมวชื่อ หนูดำ โดยการขว้างหินใส่เมื่อหนูดำเดินผ่านหน้าบ้าน พร้อมทั้งไปอาละวาดหน้าบ้านเพื่อนบ้านเกี่ยวกับแมว และได้ทำการขว้างลูกแมวที่บาดเจ็บไปที่ลูกกรงเหล็กของเพื่อนบ้านซ้ำอีกรอบจนลูกแมวกระอักเลือดปางตาย

5.คดีจับรถขนซากสุนัขชำแหละ 14 ชีวิต(22 ก.ย.58)อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ศาลได้ตัดสินลงโทษจำคุก 1 ปี รับสารภาพ ปรับ 6,000 บาท โทษจำคุก รอลงอาญา 1 ปี
นายแหงม สุฝน ชาวบ้านตำบลบ้านเดื่อ หนองคาย ผู้ต้องหาคดีจับรถขนซากสุนัขชำแหละ 14 ชีวิต ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับสารภาพผิดว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้ตระเวณซื้อหาสุนัข ในเขตหมู่บ้าน/ตำบลใกล้เคียง มาได้จำนวน 14 ตัว แล้วเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2558 เวลากลางวัน ผู้ต้องหาได้ทำการฆ่าสุนัขชำแหละในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยวิธีการคือ ใช้เหล็กคีบคอสุนัขเอาไว้ แล้วใช้ค้อนไม้ยาวประมาณ 50 ซม. ตีที่หัวสุนัข แล้วได้ใช้มีดปลายแหลมเชือดที่คอสุนัขทีละตัวจนตายสนิท จากนั้นจึงนำสุนัขไปชำแหละแยกชิ้นส่วนบรรจุในถุงพลาสติกสีดำ บรรทุกใส่รถยนต์นำไปจำหน่ายให้กับผู้ที่นิยมบริโภคเนื้อสุนัขตามแหล่งและสถานที่ต่างๆ แต่ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันตรวจยึดได้เสียก่อน

logoline