นทท.แห่ชมทุ่งพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งสีชมพูที่ภูลมโล

วันที่ 17 ม.ค. 59 นายมงคล วิโรจน์รัญรวน ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนตำบลกกสะทอน เปิดเผยว่า ขณะนี้บนความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,700 เมตรของจังหวัดเลย มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญคือความสวยงามของธรรมชาติ ชมทัศนียภาพได้ไกลโดยเฉพาะเป็นทุ่งพญาเสือโคร่งหรือที่เรียกกันว่าซากุระเมืองไทยที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย บนพื้นที่กว่า 1,200 ไร่ ที่ทางราชการส่งเสริม พัฒนา ปรับปรุงพื้นที่ป่า หลังจากอุทยานภูหินร่องกล้า ทำการขอพื้นที่คืนมาจากชาวเขาเผ่าม้งบ้านตูบค้อ ต.กกสะทอน ที่เดิมทำการเกษตร ปลูกกะหล่ำปลี พืชไร่และเลี้ยงสัตว์ มาปลูกพญาเสือโคร่ง ขึ้นมาเป็นผืนป่าสีชมพูที่จะออกดอกเบ่งบานสะพรั่งทั่วผืนป่ามากในช่วงวันที่ 10 ม.ค.-20 ก.พ.ของทุกปีเท่านั้น

โดยในปีนี้จะบานและดอกใหญ่ที่สุดช่วงวันที่ 22 ม.ค.2559 นี้ โดยเฉาะปีที่อากาศหนาวเย็นมากและยาวนานจะบานมากและดอกใหญ่กว่าทุกปี เกี่ยวกับการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวทางชมรมฯได้รับการสนับสนุนด้านสถานที่จาก อบต.กกสะทอน เพื่อสร้างอาคาร ห้องน้ำ ห้องประชุม ร้านอาหารใหม่ทั้งหมดมี องค์การพัฒนาการที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(อพท.) การออกแรงเสียสละแรงงานของสมาชิกชมรมฯ 195 คน เพื่อทำสิ่งต่าง จัดทำห้องสุขา ตัดหญ้า ตบแต่งสวนพญาเสือโคร่ง การทำบุญป่าจัดงาน และอื่น ๆ ส่วนงบประมาณนั้น อบต.กกสะทอน จัดให้นับแสนบาทมาส่งเสริมสนับสนุนด้วยโครงการพัฒนาตำบลกกสะทอนยังต้องทำต่อไป ในปี 2559 นี้ จะจัดหางบประมาณมาปรับปรุงลานจาดรถของชมรมฯที่ยังเป็นดิน หิน ฝุ่นให้เป็นพื้นคอนกรีต และ

โครงการท่องเที่ยวตลอดทั้งปีคือได้จัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวด้านต่างๆไว้แล้วเพื่อเปิดตัวเปิด การส่งเสริมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่แล้วมาเสริมภูลมโลหรือทุ่งพญาเสือโคร่ง ได้แก่ การพัฒนาถ้ำ วัด พระพุทธรูป และน้ำตก จุดชมวิวเพื่อชมทัศนียภาพที่สวยงามทะเลแห่งภูเขาขึ้นเพื่อส่งเสริมชุมชนให้แข็งแกร่งเข้มเข็มนั่นคือ การหางาน ทำกิจกรรม สร้างรายได้แก่ ชุมชนหมู่บ้านซึ้งได้รับความร่วมมือร่วมใจจัดตั้งเป็นกลุ่มเป็นชมรม บริหาร จัดการร่วมกันส่วนนักท่องเที่ยวในช่วงนี้มีจำนวนมากวันจันทร์-ศุกร์ ประมาณ 500 คน ส่วนวันหยุดวันละ 1,300 คน นี่เฉพาะนักท่องเที่ยวที่ขึ้นและใช้บริการรถยนต์ของทางชมรมฯเท่านั้น นอกนั้นใช้รถส่วนตัวและขึ้นด้านอุทยานภูหินร่องกล้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในปี2558 ทางชมรมมีรถบริการนักท่องเที่ยว 50 คัน มีเงินรายได้เข้าชมรมฯ 3 ล้านบาทเศษ ส่วนในปี 2559 นี้ มีจำนวน 97 คัน เป็นรถโฟร์วินทั้งหมด แต่ละคันบริการได้ 2-3 เที่ยวต่อวัน ส่วนค่าบริการนั้นนักท่องเที่ยว 1-7 คน เที่ยวละ 1,500 บาท และนักท่องเที่ยว 8-12 คน เที่ยวละ 2,000 บาท ส่วนผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไปบริการฟรี โดยพนักงานขับรถทางชมรมฯทุกคนทุกคันจะทำหน้าที่ทั้งขับ และเป็นมัคุเทศก์นำเที่ยวไปด้วย จึงสมควรที่ใช้บริการชมรมฯดีที่สุด เพื่อรถส่วนตัวไม่ชำรุดเสียหาย
ส่วนระยะทางสูงชันนับจากปากทางถนนสายเลย-หล่มสักถึง ชมรมหรือ อบต.กกสะทอน 12 กม.เป็นถนนลาดยาง คับแคบ คดโค้ง ขรุขระและจาก ชมรมฯ-ภูลมโลอีก 20 กม. เป็นดินลูกรัง โขดหิน รากไม้ คับแคบคดเคี้ยวเลี้ยวเลาะตามภูเขาสูงชันผู้ขับขี่ต้องชำนาญทางและมีความเชี่ยวชาญอย่างดี ซึ่งเป็นการบริการจากเจ้าหน้าที่ชมรมฯที่ประทับใจนักท่องเที่ยวมากและมีความมั่นใจในความปลอดภัย คุ้มค่ากับการลงทุนมาท่องเที่ยวอย่างถ้วนหน้า เพราะไม่ถือว่าราคาแพงเนื่องจากทุกเที่ยวต้องจ่ายค่าด่านอุทยานฯ 400 บาท หักเข้าชมรม 200 บาท

ในวันนี้มีรถส่วนตัวที่ไม่เชื่อฟังเจ้าหน้าที่ขึ้นไป ทำให้ติดขัดหลายจุดที่คับแคบและสูงชัน โดยเฉาะรถตู้และรถเก๋งไม่ควรนำขึ้นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังรู้จุดที่สวยงามจุดแหล่งที่ดอกพญาเสือโคร่งบานเต็มที่ผิดหวัง โทรกลับมาและต่อว่าชมรมฯว่า ไม่บานทำไมแจ้งข่าวว่าบานแล้วเป็นต้น อีกทั้งไม่ชำนาญเส้นทาง สำหรับเสนทางขึ้นจากอุทยานฯ หรือจ.พิษณุโลก ระทาง 3 ก.ม.มีรถบริการกว่า 150 คัน ค่าบริการเที่ยวละ 800 บาทไม่ต้องเสียค่าด่านอีก เนื่องจากเสียตอนจะขึ้นอุทยานฯก่อนแล้ว แต่ทุ่งพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทยที่สวยงามนั้น จะมีเฉพาะเขตภูลมโลอันเป็นพื้นที่เขต ต.กกสะทอน อ. ด่านซ้าย จ. เลย เท่านั้น
โดยการเปิดนำรถยนต์ขึ้นภูลมโลจะเริ่มเวลา 04.00-16.00น. เท่านั้น แต่ละวันนักท่องเที่ยวที่เดินทางถึงชมรมฯช่วงเย็น ก็จะมีที่กางเต้นท์ที่ชมรมฯให้ หรือจะไปพักแรมที่โฮมสเตย์ก็จัดไว้กว่า 10 แห่ง แต่ละแห่งรองรับได้จำนวนมาก จากนั้นรุ่งเช้าก็เดินทางขึ้นภูลมโลได้จะสะดวกปลอดภัยยิ่ง