พ.ต.อ.สำราญ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากกลุ่มผู้เสียหายผ่านทางเฟสบุ๊ก ของกองกำกับการสายตรวจ ตามโครงการ You will never walk alone ว่าน.ส.ณิชกานต์ ผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลอกลวงเอาทรัพย์สิน โดยจะใช้รูปพริตตี้มอเตอร์โชว์เป็นรูปโปรไฟล์ในไลน์หรือเฟสบุ๊ก จากนั้นจะเข้าไปคุยตีสนิทในเชิงชู้สาว เมื่อเหยื่อหลงเชื่อ ก็จะออกอุบายอ้างว่ามีเหตุจำเป็นเร่งด่วนต้องใช้เงิน เช่น ป่วย หรือญาติสนิทเสียชีวิตไม่มีเงินจัดการศพ แล้วให้เหยื่อโอนเงินให้ หรืออ้างว่าอยากได้ทรัพย์สินแต่ไม่มีเงินซื้อ แล้วจะหลอกล่อให้เหยื่อซื้อให้ หากเป็นทรัพย์สินก็จะออกอุบายให้บุคคลอื่นไปรับแทน
เมื่อเหยื่อเริ่มรู้ตัวว่าโดนหลอกเอาทรัพย์สิน และมีการทวงถาม น.ส.ณิชกานต์ จะเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์หนี และไม่สามารถติดต่อได้อีก จึงสั่ง การให้พ.ต.ต.ปียรัช เวสสะโกศล สว.งานสายตรวจ 3 ทำการสืบสวนหาข่าวจนทราบว่า น.ส.ณิชกานต์ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง จนกระทั่งได้ข้อมูลจากประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ Road Runner จากชุมชนในเขตราษฎร์บูรณะ ว่าพบบุคคลคล้ายกับน.ส.ณิชกานต์ ผู้ต้องหาตามหมายจับหลบหนีมาอยู่ในชุมชน เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบและวางกำลังเฝ้าเพื่อทำการจับกุม จนกระทั่งจับกุมตัวได้ดังกล่าว ซึ่งน.ส.ณิชกานต์ ให้การรับสารภาพว่าก่อนเหตุมาแล้วหลายครั้ง ทรัพย์สินที่ได้มาหากเป็นของก็จะนำไปขายก่อนนำไปให้แม่ที่อยู่จ.พระนครศรีอยุธยา
นายจิรภัทร โสมวิภาต อายุ 22 ปี นักศึกษาปี 4 สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง หนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า ตนรู้จักกับน.ส.ณิชกานต์ ทางโปรแกรมไลน์ เมื่อกลางเดือน มี.ค. ปี2556 โดยน.ส.ณิชกานต์ แอดมาหาตนโดยใช้ชื่อฟาง ซึ่งมีรูปโปรไฟล์เป็นรูปสาวพริ๊ตตี้ งานมอร์เตอร์โชว์ ตนจึงคุยด้วย และจะพูดคุยกันในเชิงจะขอเป็นแฟน คุยได้ประมาณ 1 เดือนช่วงแรกจะจะขอให้ซื้อของใช้จำพวกกระเป๋า รองเท้า ให้โดยตนจะโอนให้ผ่านทางธนาคาร รวมๆแล้วกว่า 5 พันบาท ต่อมาเมื่อกลางเดือนเม.ย.56 น.ส.ณิชกานต์ บอกกับตนว่าจะทำเคสโทรศัพท์ที่ด้านหลังมีรูปคู่ให้ และมีการนัดพบกันที่ห้างเซนเตอร์วัน ย่านอนุสาวรีย์ชัย ซึ่งตนนำโทรศัพท์ไอโฟน 5 ไปให้ทำ เมื่อถึงที่หมายน.ส.ณิชกานต์ อ้างว่าติดธุระให้เอาโทรศัพท์ไปฝากไว้ที่เพื่อนสาวประเภท 2 ที่ขายของอยู่ โดยจะมีโทรศัพท์ซัมซุงแกแลคซี่วาย มาให้ใช้ระหว่างรอทำเคสเสร็จ ตนจึงเชื่อใจ หลังจากนั้นก็กลับบ้านมา มารู้อีกทีว่าถูกหลอกเพราะติดต่อไม่ได้อีกเลย
ด้านน.ส.สุธดา กุลโชติโอฬาร อายุ 29 ปี พริตตี้สาวที่ถูกนำรูปไปใช้ กล่าวว่า เมื่อ 4-5 ปีที่แล้วก่อนหน้านี้ตนเองเคยทำงานเป็นพริตตี้ ค่ายรถหรูนำเข้าแห่งหนึ่งและรับงานเสริมเป็นพริตตี้ตามงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งมีผู้เสียหายหลายคนเข้ามาสอบถามในเฟสบุ๊กส่วนตัว จนมาทราบว่าตนเองถูก น.ส.ณิชกานต์ นำรูปจากเฟซบุ๊กส่วนตัว และในไลน์ ไปโพสต์หลอกเอาเงินผู้เสียหายโดยพูดในเชิงชู้สาว จนทำให้ตนเสียความรู้สึก และโมโหมาก จึงเข้าแจ้งความไว้แล้วที่สน.พระโขนง และขอยืนยันว่าตนไม่เคยรู้จักกับน.ส.ณิชกานต์ มาก่อน ตนรู้สึกดีใจที่ทางเจ้าหน้าที่สามารถตามจับกุมคนร้ายได้ ซึ่งตนขอยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
พ.ต.อ.สำราญ กล่าวต่อว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่ามีผู้เสียหายกว่า 10 ราย และส่วนใหญ่ทรัพย์สินที่ได้ไปจะเป็นเงินสด และโทรศัพท์มือถือ และมีผู้ถูกหลอกสูญเสียเงินไปมากสุด 3 แสนบาท รวมมูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท และจากการตรวจสอบประวัติพบว่า น.ส.ณิชกานต์ ยังมีหมายจับติดตัวในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ อีกจำนวน 1 หมายจับ ในท้องที่สน.ลาดพร้าว จึงฝากประชาสัมพันธ์ถึงผู้เสียหายรายอื่นๆที่คาดว่าถูกน.ส.ณิชกานต์ หลอกลวงในลักษณะดังกล่าวให้ดูตัวผู้ต้องหาได้ที่สน.พญาไท เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสน.พญาไท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป