"ยิ่งลักษณ์" ขึ้นศาลแจงคดีจำนำข้าว

ศาลฎีกากำหนดนัดไว้ให้ไต่พยานฝ่ายอัยการ โจทก์ รวม 14 ปาก ภายในเวลา 5 นัด ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. วันที่ 17 ม.ค และ 26 ก.พ. , วันที่ 4 และ 23 มี.ค.59 หลังจาก อัยการสูงสุด ยื่นฟ้อง อดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่หน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ที่ละเลยไม่ยับยั้ง โครงการรับจำนำข้าว ส่งผลรัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ก.พ.58
อดีตนายรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บอกถึงความพร้อมขึ้นศาลนัดแรกว่า มีความพร้อมในเนื้อหา วันนี้เป็นวันสืบพยานฝ่ายโจทย์ซึ่งอาจจะมีการให้การที่ฝ่ายโจทก์นอกเหนือที่ฝ่ายโจทก์ให้ไว้กับ ป.ป.ช. คาดว่ามีคำถามเพิ่มเติม เตรียมนำเสนอศาลพิจารณาด้านพยานที่มาเพิ่มเติมฝ่ายโจทก์นอกเหนือจากชั้น ป.ป.ช.นั้น ก็เป็นการนำข้อเท็จจริงเพื่อให้ศาลรับรู้ แต่ยืนยันจะทำอย่างเต็มที่ โดยว่ากันตามเนื้อหา ซึ่งจะต้องให้ศาลพิจารณาต่อไป โดยพยานของฝ่ายตนก็พร้อมที่จะนำเสนอในการต่อสู้ช่วงเดือนเมษายนตามนัดหมายต่อไป

พยานชุดแรก ที่คณะทำงานอัยการโจทก์ จะส่งให้องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ ทั้ง 9 คน ไต่สวน ก็จัดเตรียมไว้ 4 ปากด้วยกัน
พยานปากแรก ที่อัยการจะนำเข้าไต่สวน คือ อดีตประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ ดร. นิพนธ์ พัวพงศกร ซึ่งอัยการต้องการนำมาเปิดประเด็นโครงการจำนำข้าวตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อให้ศาลฎีกาฯ เห็นภาพรวม วิธีการจำนำข้าว ก่อนจะลงรายละเอียด แยกแยะ การจำนำข้าวแต่ละส่วน
ส่วนพยานที่อัยการจะเปิดประเด็นต่อ คือ สื่อมวลชน นำสืบเรื่องสารบรรณข่าวที่ได้รวบรวมเนื้อหาโครงการรับจำนำข้าว รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ประจักษ์ บุญยัง ที่นำสืบประเด็นการทำหนังสือเตือนการตรวจสอบและเสนอความเห็นว่าโครงการรับจำนำข้าวมีข้อบกพร่องหรือไม่ ก่อนจะปิดท้ายการไต่สวนพยานวันแรกด้วย อดีตรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จิรชัย มูลทองโร่ยพยานปากที่สี่ ที่นำสืบเรื่องความเสียหายจากการดำเนินโครงการหลังจากนี้ ไปจนถึง 18 พ.ย.59 รวมระยะเวลา 10 เดือน อดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำเลย จะต้องมาศาล ร่วมกระบวนการไต่สวนพยานทุกนัดตั้งแต่วันแรก จนวันสุดท้าย ไม่เช่นนั้นจะถูกศาลสั่งถอนประกัน และปรับเงินประกัน 30 ล้านบาท อาจถูกหมายจับได้ ถูกออกหมายจับด้วย