ลุงวัยเกษียณ ขึ้นป้ายขอร้องโจร "โปรดเมตตา ไม่เหลืออะไร ให้ท่านย่ำยีแล้ว"

เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2559 นายนิคม พรมจารย์ อายุ 69 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 369/5 ซ.พรมประกาย 2 เขตเทศบาลนครอุดรธานี ได้นำป้ายที่มีข้อความ ถึงโจรว่าเรียนคุณโจร ที่เคารพ บ้านหลังนี้โดนพวกท่าน โจรกรรมทำลาย มาแล้ว3ครั้ง ไม่เหลืออะไร ให้ท่านย่ำยี อีกต่อไปแล้ว ขอได้โปรดเมตตาด้วยนำมาติดไว้ที่หน้าบ้านและข้างบ้าน เพราะสุดทนที่บ้านถูกงัดเข้าไปขโมยทรัพย์สินไปแล้วถึง 3 ครั้ง ในช่วงระยะเวลา 5 ปี ซึ่งทรัพย์สินที่สูญหายเป็นพระเครื่องเก่าแก่ที่สะสมมา และเงินสดจำนวนหนึ่ง

นายนิคม เจ้าของบ้าน บอกว่า ตนเคยทำงานที่รัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง แต่ละออกมาได้ 13 ปีแล้ว โดยคนร้ายได้งัดบ้านตนล่าสุดเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา บ้านตนก็ถูกคนร้ายงัดเข้ามาขโมยทรัพย์สินอีก โดยคนร้ายอาศัยช่วงที่คนไม่อยู่บ้านเข้ามาก่อเหตุ ครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคม ปี 57 คนร้ายงัดบ้านเข้ามาขโมยกระปุกออมสินไป4ใบ ได้เงินไปประมาณ1หมื่นบาท พร้อมขโมยนกเขาและนกกรงหัวจุกที่เลี้ยงไว้หลังบ้านไป4ตัวด้วย จากนั้นครั้งที่ 2 เดือนธันวาคม ปี 57 คนร้ายยังเข้ามาก่อเหตุ ได้นาฬิกาข้อมือ 3 เรือน มูลค่าเกือบ 4 หมื่นบาท หลังจากนั้นได้ตัดสินใจทำลูกกรงเหล็กติดรั้วรอบบ้าน พร้อมมีลวดหนามด้วย หวังป้องกันเอาไว้อีกชั้นหนึ่งและทำประตูเหล็กดัดทุกบาน

ครั้งล่าสุดช่วงเช้าวันที่23ธันวาคม ปี 58 ที่ผ่านมา ขณะที่ตนออกจากบ้านไปทำธุระ เมื่อเดินทางกลับคนร้ายงัดบ้านเข้ามาขโมยของเป็นครั้งที่3และได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอุดรธานี โดยคนร้ายได้ สร้อยคอ ต่างหูเพชรพลอย เหรียญกษาปณ์ พระเครื่อง และธนบัตรสะสมที่พิมพ์ออกมาในงานสำคัญต่าง ๆ ที่ตนและภรรยาสะสมเอาไว้ทั้งชีวิตรวมมูลค่าเกือบ5หมื่นบาท"

นายนิคม กล่าวอีกว่า ที่ตนนำป้ายมีข้อความขอร้องโจรมาติด เพราะต้องการขอความเห็นใจจากคนร้ายจริง ๆ ที่ผ่านมาสูญเสียทรัพย์สินไปจำนวนมากแล้ว อีกทั้งยังเป็นการเตือนให้เพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงได้ระมัดระวังบ้านของตัวเอง ที่อาจจะถูกคนร้ายงัดเข้าไปขโมยทรัพย์สินเมื่อกับบ้านตนเองด้วย

ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามเจ้าของบ้านซอยเดียวกัน ปรากฎว่า มีคนร้ายงัดบ้านเข้าไปขโมยทรัพย์สินไปเช่นกัน ที่ถูกคนร้ายงัดบ้านไป 5-6 หลัง หลังละ 2-3 ครั้ง รวมถึงตามหอพักต่าง ๆ ด้วย ทำให้สูญทรัพย์สินไปจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาบางรายก็ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน แต่บางรายไม่ได้แจ้งความ เพราะรู้สึกอับอายที่ไม่สามารถดูแลบ้านของตนเองได้ โดยตอนนี้ เจ้าของบ้านแต่ละหลัง ก็ต้องดูแลทรัพย์สินของตนเอง เป็นการป้องกันในเบื้องต้น เช่น การติดตั้งรั้วเหล็กแหลมเพิ่มเติมจากกำแพงบ้าน การติดลูกกรงประตูหน้าต่างให้มิดชิดขึ้น ติดตั้งกล้องวงจรปิด สร้างความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง แต่อยากให้เจ้าหน้าที่มาช่วยดูแลด้วย เพราะบางบ้านมีเด็ก ๆ หรือผู้สูงอายุ อยู่ อาจเกิดอันตรายเมื่อมิจฉาชีพออกมาก่อเหตุได้

พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากทราบว่า มีการนำป้ายมาติดหน้าบ้าน ทางตนพร้อมตำรวจชึดสืบสวน ได้เดินทางไปพบเจ้าของบ้าน เพื่อสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมในการติดตามจับกุมตัวคนร้าย ซึ่งครั้งหลังที่มีการเข้าแจ้งความ เราก็ดำเนินการสืบสวนเพื่อจับกุมคนร้ายอยู่ ซึ่งการพบเจ้าของบ้าน เพื่อให้เขามีความมั่นใจว่า ตำรวจจะเข้ามาดูแล โดยตนสั่งการให้ตำรวจสายตรวจ เข้ามาตรวจสอบในละแวกนี้บ่อยขึ้น เพื่อช่วยป้องกันและให้คนร้ายเกรงกลัว

ส่วนการติดตามจับกุมตัวคนร้าย ให้ทางชุดสืบสวน หาภาพจากกล้องวงจรปิดในละแวกดังกล่าว แต่เวลาผ่านมาหลายวัน คงต้องดูว่าจะมีภาพอยู่หรือไม่ นอกจ่ากนี้ยังจะตรวจสอบจากคนร้ายที่ก่อเหตุในลักษณะนี้ ที่ถูกกจับกุมมาก่อนหน้าว่า เคยเข้ามาก่อเหตุกับบ้านแถวนี้หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ที่เกิดเหตุ 2 ครั้ง ทางเจ้าของบ้านไม่ได้เข้าแจ้งความ เพิ่งเข้าแจ้งความครั้งที่ 3 ที่เป็นครั้งสุดท้าย ที่โดนก่อเหตุ โดยตำรวจจะเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายให้ได้