รวบมือฆ่าโหด นร.ม.6 สระแก้ว ชนวนเหตุ ทวงเงินแค่ 500

จากเหตุการณ์กรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนรุมฆ่าโหดนายนายภูมิรพี วรนาม อายุ18ปี นักเรียนชั้น ม.6/1โรงเรียนอรัญประเทศ ซึ่งเป็นโรงเรียนมาตรฐานสากลประจำอำเภออรัญประเทศ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตคาชุดนักเรียน กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวปักชื่อว่านายภูมิรพี วรนามสวมรองเท้าผ้าใบสีน้ำตาล มีเลือดไหลนองเต็มตัว สภาพศพบริเวณหัวและใบหน้ามีบาดแผลคล้ายถูกฟันด้วยของมีคมกว่า10แผลฉกรรจ์ใบหูขวาเกือบขาด และพบรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด จำนวน2นัดกระสุนฝังในบริเวณชายโครงซ้ายและกลางหลัง และพบว่ายังมีเขม่าปืนติดอยู่ ด้วย ใกล้ๆกันพบกระเป๋าเป้สีดำ และหมอกกันน็อคสีขาว ของผู้ตายตกอยู่ โดยมีรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาวน้ำตาล ทะเบียน1กก2892สระแก้ว ซึ่งเป็นของผู้ตายจอดติดเครื่องอยู่ห่างศพประมาณ3เมตร เมื่อกลางดึกคืนวันที่5ม.ค.59ซึ่งเบื้องต้น จนท.ตร.สภ.อรัญประเทศ ต้องประเด็นการสังหารไว้2ประเด็นคือชู้สาวกับชิงทรัพย์นั้น
ความคืบหน้าคดีนี้ เมื่อเช้าวันนี้ที่7ม.ค.59เมื่อเวลา08.30น. พ.ต.อ.สุบิน บุญเล็ก ผกก.สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เปิดเผยว่าขณะนี้ ทีมชุดสืบสวน และ พนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ ได้จับกุมผู้ต้องหาที่ฆ่านายภูมิรพี วรนาม นักเรียนชั้น ม.6โรงเรียนอรัญประเทศ ไว้ได้แล้ว1คน ชื่อนายวรพงษ์ สีใส อายุ18ปี เป็นเพื่อนนักเรียนชั้นเดียวกันกับนายภูมิรพีฯ พร้อมอาวุธปืนของกลางที่ก่อเหตุ โดยรับสารภาพแล้วว่าเป็นผู้ที่ลงมือสังหารนายภูมิรพีฯเพียงคนเดียวผกก.สภ.อรัญประเทศ เผยว่าหลังจากที่เกิดคดีสะเทือนขวัญชาวอรัญประเทศ ขึ้นมา พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้ เร่งรัดทำคดีอย่างรวดเร็ว ซึ่งทางชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ได้เชิญตัวเพื่อนนักเรียนของนายภูมิรพีฯผู้ตายที่เป็นกลุ่มไปร่วมทำรายงานด้วยกันมาทำการสอบสวนทีละคนเพื่อหาเบาะแสสาเหตุการณ์ถูกฆ่าตาย และจากการสอบสวนเพื่อนนักเรียนของผู้ตายทั้ง10คน ทุกคนปฏิเสธไม่รู้เรื่องหรือรู้เห็นแต่อย่างใดมีเพียงคนเดียวคือนายวรพงษ์ สีใส อายุ18ปี ที่จากการสอบสวนให้การวกวนคล้ายพยายามแต่งเรื่องขึ้นมาทำให้ จนท.เกิดความสงสัย จึงรวบรวมพยานหลักฐานที่ได้จากที่เกิดเหตุขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดสระแก้ว บุกเข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่16/2บ้านดงงู ม.7ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นบ้านพักของนายวรพงษ์ฯซึ่งจากการตรวจค้นพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด.38ซึ่งเป็นทูตสังหารนายภูมิรพีฯ และเป็นอาวุธปืนมีทะเบียนของนายวัลลภ วรนาม ผอ.โรงเรียนบ้านหนองบัว พ่อของนายภูมิรพีฯ ซุกซ่อนอยู่ในห้องนอนของนายวรพงษ์ฯ จนท.จึงควบคุมตัวนายวรพงษ์ฯพร้อมอาวุธปืนฯมาทำการสอบสวนอีกครั้งที่ สภ.อรัญประเทศฯ
พ.ต.อ.สุบิน กล่าวว่าสุดท้ายเมื่อเช้าวันนี้นายวรพงษ์ สีใส จึงยอมเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นผู้ที่ลงมือสังหารเพื่อนด้วยตนเองและทำคนเดียวส่วนมูลเหตุนั้นเนื่องจากนายภูมิรพีฯผู้ตายติดค้างค่ายาบ้าที่ซื้อจากตนเองเป็นเงิน500บาท แต่นายภูมิรพีฯมีพฤติกรรมคล้ายจะเบี้ยว จึงหลอกให้นายภูมิรพีฯมาที่เปลี่ยวแล้วจึงทวงเงินแต่นายภูมิระพีฯไม่ให้อ้างว่าไม่มีตนจึงเกิดโมโห ชกหน้านายภูมิรพีฯไป1ครั้งจนล้มลงจากนั้นจึงได้แย่งปืนพกสั้นที่นายภูมิรพีฯพกอยู่ที่เอวเป็นประจำแล้วนำมากระหน่ำยิงนายภูมิรพีฯ2นัดซ้อนเข้าที่ชายโครงและกลางหลัง แต่กลัวนายภูมิรพีฯจะไม่ตายจึงใช้ด้ามปืนพกสั้นกระหน่ำตีไปที่ใบหน้าและศรีษะกว่า10ครั้ง ก่อนจึงขับขี่รถ จยย.กลับบ้านโดยทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งตอนเช้า จนท.ตร.ตามตัวมาสอบสวน ก็พยายามแต่งเรื่องต่างๆแต่เป็นการแต่งเรื่องอย่างมีพิรูธซึ่งต่างจากการสอบสวนเพื่อนๆคนอื่น จึงมั่นใจว่านายวรพงษ์ฯน่าจะมีส่วนรู้เห็นการตายของนายภูมิรพีฯและที่สุดก็ยอมรับสารภาพจริงๆ
ผกก.สภ.อรัญประเทศ ยังเผยอีกว่าจากการรับสารภาพของนายวรพงษ์ฯนั้นทราบว่าทั้งนายวรพงษ์ฯและนายภูมิรพีฯเป็นเพื่อนนักเรียนห้องเดียวกันและวันเกิดเหตุได้ไปทำรายงานกลุ่มกันที่บ้านดงยาง ต.เมืองไผ่ อ.อรัญประเทศฯกับเพื่อนๆในกลุ่มรวมประมาณ10คน จากนั้นเวลาประมาณ19.00น.จึงแยกย้ายกันกลับ แต่นายวรพงษ์ฯได้ชักชวนให้นายภูมิรพีฯไปทำธุระด้วยกัน โดยขับขี่รถ จยย.ไปคนละคัน เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นที่เปลี่ยวนายวรพงษ์ฯจึงจอดรถ จยย.แล้วเรียกให้นายภูมรพีฯจอดรถลงมาแล้วนายวรพงษ์ฯจึงเริ่มทวงเงินค่ายาบ้าจากนายภูมิรพีฯที่ยังติดค้างอยู่500บาท แต่นายภูมิรพีฯไม่ยอมจ่ายอ้างว่าไม่มีเงิน ทำให้นายวรพงษ์ฯโมโห คิดว่านายภูมิรพีฯจะเบี้ยวฆ่ายาบ้าจึงลงมือทำร้ายเพื่อนกันเองพ.ต.อ.สุบิน กล่าวในตอนท้ายว่า จะต้องสอบสวนนายวรพงษ์ฯเพิ่มเติมว่ายาบ้าที่นายวรพงษ์ฯกับนายภูมิรพีฯซื้อขายกันนั้นเป็นการซื้อไปขายหรือซื้อกันไปเสพและนำยาบ้ามาจากไหนเพื่อหาต้นตอและต้องทำลายเครือข่ายยาบ้าในกลุ่มนักเรียนนี้ให้หมดโดยเร็วด้วย