เด็กช่าง 2 สถาบันไล่ยิงกันกลางถนน ตาย 1 เจ็บอีก 1

ที่เกิดเหตุบริเวณใต้สะพานลอยซอยศรีนครินทร์ 26 ถนนศรีนครินทร์ด้านขาเข้า พบกลุ่มนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ ประมาณ10 คนจับกลุ่มกันอยู่เจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัวไว้ก่อน จากการตรวจสอบโดยรอบพบอาวุธมีดยาวจำนวน 6 เล่ม ปืนปากกา 1 กระบอกพร้อมกระสุนปืนขนาด.22 ซุกซ่อนอยู่ใต้สะพานลอย จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐานก่อนนำกลุ่มนักศึกษาดังกล่าวมาสอบสวนที่สน.ประเวศ
ทั้งนี้ยังพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว 2 รายทราบชื่อต่อมานายธนา(นามสมมติ) อายุ 16 ปี นักศึกษาปี1 แผนกช่างยนต์ สถาบันดังกล่าว ถูกยิงได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนซ้าย 1 นัด ท้อง 1 นัด ต้นขาซ้าย 1 นัด ถูกนำตัวส่งรพ.ศิรินธร ก่อนย้ายรักษาตัวต่อที่รพ.บางพลี อีกรายทราบชื่อต่อมานายนิด (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นักศึกษาปี3 แผนกช่างยนต์ สถาบันเดียวกัน ถูกยิงได้รับบาดเจ็บบริเวณหลัง 1 นัดถูกนำตัวส่งรพ.วิภาราม แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบสวนนายศร (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เล่าว่า ตนเรียนอยู่ชั้นปี1 แผนกช่างยนต์ สถาบันเทคโนโลยีช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ ซึ่งเป็นที่เดียวกับผู้บาดเจ็บและผู้ตาย โดยเมื่อช่วงเช้า เวลาประมาณ07.30 น. ตนพร้อมเพื่อนรวม 7 คนได้ขึ้นรถประจำทางสาย 207 สีชมพูเพื่อไปเรียนตามปกติ แต่เมื่อรถถึงป้ายรถเมล์ด้านหน้าตลาดเอี่ยมสมบัติ ได้พบกับกลุ่มวัยรุ่น ประมาณ 10 คนจำได้ว่าใส่เสื้อช็อปของโรงเรียนเทคโนโลยีบางกระปิ ยืนรออยู่
เมื่อรถจอดสนิทกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้พยายามขึ้นมาบนรถก่อนจะเข้ามารุมทำร้ายกลุ่มตนบนรถ โดยมี 1 ในนั้นถืออาวุธลักษณะคล้ายปืนปากกายืนคุมเชิงอยู่ด้านล้าง กลุ่มของตนจึงวิ่งกรูลงมาด้านล่าง ก่อนจะตะรุมบอนกันอีกรอบ ต่อมามีวัยรุ่นขับมอเตอร์ไซด์ซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มคู่กรณีได้ยิงปืนเข้ามาในกลุ่มของตน 1 นัด จนถูกนายธนายุทธ ล้มลงได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นพวกตนต่างพากันวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง ตนและเพื่อนอีก 3 คนรวมผู้ตาย ได้วิ่งข้ามถนนไปฝั่งตรงกันข้ามตลาดเอี่ยมสมบัติ โดยมีกลุ่มคู่กรณีขับรถมอเตอร์ไซด์ตามมาและใช้ปืนยิงอีกหนึ่งนัด จนถูกนายปริญญา ล้มลงนอนแน่นิ่ง หลังจากนั้นกลุ่มที่ก่อเหตุได้แยกย้ายกันหนีไป
ทางด้านนางปุ๊ อายุ 53 ปี แม่ผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ลูกชายนั้นเป็นเด็กดี นิสัยร่าเริง ซึ่งเวลาไปเรียนก็จะกลับบ้านตรงเวลาโดยจะขึ้นรถจากบ้านพักย่านวัดด่านสำโรง สมุทรปราการ แล้วจะต้องมาต่อรถที่หน้าตลาดศรีเอี่ยมประจำทุกวัน ซึ่งเท่าที่ทราบมีแต่เพื่อนเท่านั้นที่ชอบหาเรื่องมาให้ ตนเคยคัดค้านไม่ให้เรียนที่สถาบันนี้ แต่ลูกอยากเรียนเพราะมีใจรักในสายอาชีพ และคอยห้ามปรามเสมอว่าอย่าไปหาเรื่องใคร ซึ่งเมื่อก่อนที่จะเข้านอนตนบ่นกับพี่สาวว่าปวดหลัง ลูกชายน่าจะได้ยินก่อนจะลงมานวดให้
ต่อมาเวลา 13.30 น.วันเดียวกัน พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ รอง ผบก.น.4 ได้เดินทางมาร่วมสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ
โดย พล.ต.อ.พงศพัศ เปิดเผยว่า ในพื้นที่นี้มักจะเกิดเหตุในลักษณะนี้อยู่บ่อยครั้ง เหตุที่เกิดส่วนใหญ่เป็นเหตุที่เกิดเฉพาะหน้า ซึ่งน่าจะมีการพูดยั่วยุเรื่องสถาบัน จนทำให้มีความโกรธแค้น และขาดสติ กระทำการเหตุดังกล่าวขึ้น ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุนั้นทราบแล้วว่าเป็นกลุ่มใด แต่ยังต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนก่อนออกหมายจับ ซึ่งขณะที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพแท็กซี่สีชมพู ไม่ทราบทะเบียนที่รับผู้ต้องสงสัยมาจากภายในชุมชนโมราวรรณ ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ แล้วออกปากทางซอยอ่อนนุช 49 ไป ทั้งนี้อยากขอความร่วมมือให้แทกซี่คันดังกล่าวเข้ามาให้การที่ สน.ประเวศ หรือหากใครรู้เบาะแส ให้รีบแจ้ง พ.ต.อ.เมธา เจียมไกรศรี ผกก.สน.ประเวศที่เบอร์ 094-789-5359 เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
"ในเรื่องการหาแนวทางป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกนั้น หลังจากนี้จะนำเสนอไปยัง ผบ.ตร และกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมพูดคุยหาแนวทางไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก" พล.ต.อ.พงศพัศ ระบุ
ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น.มีรายงานข่าวว่าทางเจ้าหน้าที่สามารถติดตามผู้ที่ก่อเหตุได้แล้ว 1 คนซึ่งอยู่ระหว่างการนำตัวมาสอบสวนที่สน.ประเวศ