svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

TMB ผนึก บสย. หนุน SMEs กลุ่มนำเข้า-ส่งออก

24 พฤศจิกายน 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทีเอ็มบี จับมือ บสย. เพิ่มเครื่องมือช่วยเอสเอ็มอีกลุ่มธุรกิจนำเข้า-ส่งออก เสริมสภาพคล่องให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างไม่สะดุด ด้วยสินเชื่อ ทีเอ็มบี ควิก เทรด (TMB Quick Trade) ตอบโจทย์ลูกค้าเอสเอ็มอีด้วยวงเงินสินเชื่อธุรกรรมต่างประเทศสูงสุด 40 ล้านบาท พร้อมทั้งวงเงินป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ค้ำประกันสินเชื่อโดย บสย. และไม่ต้องใช้หลักประกันอื่น เพื่อรองรับการฟื้นตัวของธุรกิจนำเข้า-ส่งออกของผู้ประกอบการไทยในปี 2559

นางพรรณแข  นันทวิสัย หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธุรกรรมระหว่างประเทศ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบี เปิดเผยว่า ธนาคารได้มีการสนับสนุนเอสเอ็มอีกลุ่มธุรกิจนำเข้า-ส่งออก ด้วยสินเชื่อ ทีเอ็มบี ควิก เทรด (TMB Quick Trade) ตอบโจทย์ลูกค้า SMEs ด้วยวงเงินสินเชื่อธุรกรรมต่างประเทศสูงสุด 40 ล้านบาท พร้อมวงเงินป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยมี บสย. ช่วยค้ำประกันสินเชื่อให้เต็มวงเงิน พร้อมมาตรการฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกันปีแรก ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการ เพื่อรองรับการฟื้นตัวของธุรกิจนำเข้า-ส่งออกในปี 2559 ซึ่งถือว่ามีความสำคัญอย่างมากในการผลักดันเศรษฐกิจของไทยให้ฟื้นตัวตลอดปี 2559 
ธนาคารทหารไทย คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ จะสามารถช่วยลูกค้า SMEs ได้กว่า 200 ราย รวมวงเงินประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยในปี 2559 ธนาคารตั้งเป้าหมายขยายการสนับสนุนเอสเอ็มอีในวงกว้างมากขึ้น
นายวิเชษฐ วรกุล รองผู้จัดการทั่วไป สายงานธุรกิจ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า สินเชื่อ ทีเอ็มบี ควิก เทรด เป็นความร่วมมือกับธนาคารทหารไทย และ บสย. 
โดยค้ำประกันผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS5 ปรับปรุงใหม่ ตามมติครม. 8 กันยายน 2558 ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากทั้งสถาบันการเงิน และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีโดย ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2558 โครงการ PGS5 ปรับปรุงใหม่ฯ มีการอนุมัติวงเงินค้ำประกันรวมกว่า 20,000 ล้านบาท สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไปแล้วกว่า 5,000 ราย 
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มนำเข้า-ส่งออก ถือเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างมาก โดยเฉพาะการส่งออกซึ่งคิดเป็นสัดส่วนหลักประมาณ 70% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ GDP เช่นเดียวกับธุรกิจนำเข้า เนื่องจากประเทศไทยโดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอียังจำเป็นต้องนำเข้าสินค้าทุน เครื่องจักร และพลังงาน เพื่อใช้ในการพัฒนาประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อการขยายตัวของ GDP ในระยะยาว

logoline