พล.ต.ต.เจริญ กล่าวว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ในพื้นที่ สน.เตาปูน มีเหตุคนร้ายก่อเหตุวางเพลิงหลายครั้ง โดยครั้งแรก เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.13น.เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่แฟลตอำรุงชัยที่อยู่ภายในซอยประชาชื่น10 มีสิ่งของถูกไฟไหม้เสียหายเล็กน้อย ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 14 พ.ย. เวลาประมาณ 03.35 น. ได้มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน ก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์บริเวณพรรัตน์อพาร์ทเม้นต์ ใกล้ปากซอยประชาชื่น2 แล้วจุดไฟเผาได้รับความเสียหายเล็กน้อยบริเวณท่อไอเสีย ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 14 พ.ย. เวลาประมาณ 04.00น.ได้มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน ก่อเหตุวางเพลิงที่แฟลตอำรุงชัยที่อยู่ภายในซอยประชาชื่น10 ทำให้มีรถจักรยานยนต์ของผู้เช่าที่แฟลตดังกล่าวถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายจำนวน 5 คัน และครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 20 พ.ย. เวลาประมาณ 03.00น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านเลข133 ซอยประชาชื่น5 ถนนประชาชื่น แขวงและเขตบางซื่อ กทม. หลังเพลิงสงบได้ตรวจสอบพบว่ามีคนเสียชีวิตเป็นหญิงจำนวน 1 ราย หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.เตาปูนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากบ้านของประชาชนใกล้เคียง พบว่าก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้มีชาย 1 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นคลิกสีขาว-ดำไม่ทราบหมายเลขทะเบียนมาจอดหน้าประตูด้านข้างบ้านเกิดเหตุ และเข้าไปในบ้านดังกล่าว
พล.ต.ต.เจริญ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นเวลาประมาณ 02.56 น. ชายคนดังกล่าวได้ออกมาจากบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมกับลักรถจักรยานซึ่งจอดอยู่ในบ้านออกมาด้วย แล้วขับรถพร้อมกับจูงรถจักรยานออกจากบ้านดังกล่าวมุ่งหน้าแยกประชาชื่นหลังจากนั้นได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นอย่างรุ่นแรง ต่อมาในวันที่ 21 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.2 และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.เตาปูน ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้าบริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด พบภาพของคนร้ายขณะขับขี่รถจักรยานยนต์คันก่อเหตุและจูงรถจักรยานที่ลักมาไปด้วย โดยมุ่งหน้าสถานีรถไฟบางซื่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปตรวจสอบโดยรอบบริเวณสถานีรถไฟบางซื่อพบนายยุทธนา อ่อนสุวรรณ ซึ่งทราบชื่อภายหลัง ยืนอยู่ข้างกับรถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นมูฟสีดำ-แดง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับรถที่มาก่อเหตุวางเพลิงแฟลตอำรุงชัยในซอยประชาชื่น10 เมื่อวันที่ 9 พ.ย.และวันที่ 14 พ.ย. จึงได้เข้าไปทำการตรวจสอบ พบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายตรงกับคนร้ายที่มาก่อเหตุในวันดังกล่าว รวมทั้งเหตุลักทรัพย์ที่ซอยประชาชื่น5 เมื่อวันที่ 20 พ.ย. โดยจากการสอบถามเบื้องต้นนายยุทธนา รับว่าเป็นผู้ก่อเหตุทั้งหมดจริงและได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึดของกลางที่ลักมาได้ ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สน.เตาปูน
ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า จากการสอบถามพบว่าผู้ต้องหาเป็นคนเร่ร่อน พักอาศัยอยู่แถวสถานีรถไฟบางซื่อ อาศัยข้าววัดกิน โดยจะนอนแต่หัวค่ำ จากนั้นจะตื่นมากลางดึก ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ที่ลักมาจากจังหวัดนครราชสีมา ตระเวนก่อเหตุไปทั่ว เมื่อเจอสิ่งของที่น่าสนใจก็จะลักเอาไปด้วย โดยในระยะ 4-5 ครั้งหลังจะมีการใช้ไฟแช็คจุดไฟเพื่อเผาอีกด้วย โดยครั้งสุดท้ายได้จุดไฟเผาเศษเสื้อผ้าในร้าน ทำให้เกิดเพลิงไหม้จนมีผู้เสียชีวิต ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า นายยุทธนา เคยมีประวัติต้องโทษในคดีลักทรัพย์ จำคุก 4 ปี โดยเพิ่งพ้นโทษมาได้ปีกว่า ก็ออกมาก่อเหตุอีก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นจะต้องดำเนินคดีในข้อหาหนักกับนายยุทธนา
สอบสวนนายยุทธนา ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุลักทรัพย์และวางเพลิงจริง โดยใช้ไขควงงัดลูกกุญแจ ก่อนจะเข้าไปลักเอาเงิน และเอาทรัพย์สินไป ตนอยากขอโทษผู้เสียหายด้วย ก่อนเข้าไปไม่รู้มาก่อนว่าบ้างหลังดังกล่าวมีคนอยู่ เพราะเห็นว่าล็อคลูกกุญแจจากข้างนอก พอเข้าไปตนเห็นจักรยานก็อยากได้มาปั่น เห็นพระเครื่อง เห็นเงิน ก็หยิบมา ทุกครั้งที่จุดไฟเผานั้นตนก็ไม่รู้ว่าเผาไปเพราะอะไรเหมือนกัน
ขณะที่ด้าน นายชาติชาย ชุ้มมหาสงศ์ อายุ 64 ปี บิดาผู้เสียชีวิต กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนอยากทราบว่าผู้ต้องหาสามารถสะเดาะลูกกุญแจ ซึ่งเป็นสี่เหลี่ยมได้อย่างไร เขาไม่ได้เผาแค่จุดเดียว เขาเปิดตู้เย็นเอาของกินมากิน ขโมยเงินไป 5,000 บาท ตนไม่ได้ว่าอะไร แต่เขาไปสับคัตเอาท์ลง ลูกสาวตนตื่นขึ้นมา พอเปิดหน้าต่าง แต่เปิดพัดลมไม่ติด ตนได้กลิ่นควันไฟ ก็ตกใจมากจึงลงมาข้างล่างก็พบว่าไฟไหม้ ตนก็วิ่งขึ้นไปเพื่อช่วยลูกสาวแต่ช่วยไว้ไม่ทัน ซึ่งคนๆนี้จะเป็นภัยต่อสังคมมากหากปล่อยให้ออกมาอยู่ข้างนอก