ฮีทถล่มเลเกอร์ส 101-88

ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ โคบี้ ไบรอันท์ ซึ่งลงเล่นในเอ็นบีเอมาแล้ว 20 ฤดูกาล หวังว่าเขาจะได้ลงเล่นในนัดที่เจอกับไมอามี่ ฮีท ขระที่โค้ชของเลเกอร์ส - ไบรอน สกอตต์ ไม้ย่อมเปิดเผยถึงเหตุผลว่าทำไมไบรอันท์ถึงไม่ได้ลงเล่นในนัดนี้ จนกระทั่งมีการประกาศรายชื่่อผู้เล่นที่จะลงในนัดที่เจอกับฮีท 45 นาทีก่อนเกมเริ่ม ถึงรุ้กันว่าไม่มีไบรอันท์ลงเล่น ในขณะที่ ไบรอันท์เองทำคะแนนได้เฉลี่ย 16.5 คะแนนต่อเกมใน 6 เกมฤดุกาลนี้ของเลเกอร์ส
ในส่วนของเกมคู่นี้ ในควอเตอร์แรก ลูออล เด็ง ตัวเก่งชาวซูดานของฮีท โชว์ฟอรมเด่น พาฮีกขึ้นนำก่อนเมื่อจบควอเตอร์นี้ 29-23 คะแนน
พอมาควอเตอร์ที่ 2 เลเกอร์สแก้เกมมาเล่นได้ดีขึ้น นิค ยัง ซึ่งเกมนี้ทำไป 17 คะแนน ช่วยชู๊ตให้เลเกอร์ส พลิกกลับขึ้นนำ 34-33 คะแนน แต่ฮีทก็ได้ ดเวย์น เว็ด หนึ่งในตัวเก่งของทีม ช่วยชู๊ตให้ฮีกกลับมานำอีกครั้งที่ 48-44 คะแนนในช่วงท้ายควอเตอร์ ก่อนที่เจ้าถิ่นจะพบควอเตอร์นี้ด้วยการนำเลเกอร์สอยู่ 50-49 คะแนน
ลงมาเล่นในครึ่งหลังหรือควอเตอร์ที่ 3 กันต่อ ซึ่งนช่วงต้นควอเตอร์ คริส บอช ซูเปอร์สตารือีกรายของฮีท ชู๊ตให้ฮีทนำ 52-51 คะแนน และนำอยู่ 69-60 คะแนนเมื่อเหลืออีก 4 นาทีจะหมดควอเตอร์ที่ 3 จากผลงานของฮัสซัน ไวท์ไซด์ ที่ชู๊ตในเกมนี้ไป 19 คะแนน กับอีก 15 รีบาวด์ จากการอยู่ในสนาม 27 นาที ก่อนที่จบควอเอตณ์ 3 ฮีทนำเลเกอร์ส อยู่ 75-66 คะแนน
ในควอเตอร์สุดท้ายหรือคอวเตอร์ที่ 4 ฮีทยังคงเหนือกว่า และได้บอชและเด็ง โชว์ฟอร์มเด่น โดยเด็งทำไปทั้งเกม 14 คะแนน ส่วนบอชนั้นทำไปทั้งหมดถึง 30 คะแนนกับอีก 11 รีบาวด์ ให้ไมอามี่ ฮีท ต้อน ลอสแองเจลิส เลเกอร์ส ไปในที่สุด 101-88 คะแนน
ส่งผลให้เลเกอร์ส มีสถิติย่ำแย่ในฤดูกาลนี้ แพ้ถึง 6 เกม และชนะแค่เกมเดียว ซึ่งหลังเกมจบ ไบรอันท์กับเว็ดได้มาทักทายกันกลางสนาม โดยเขาได้สวมกอดลูกชายของเว็ดด้วย