ย้อนรอยคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา

 เจ้าหน้าที่สนธิกำลังปูพรมตรวจค้นค่ายกักตัวชาวโรฮิงญาของขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาแก้ว บ้านตะโล๊ะ ใน อ.สะเดา จ.สงขลา ห่างจากสันปันน้ำฝั่งรัฐเปอร์ลิส  ชายแดนมาเลเซียราว 300 เมตร พบหลุมฝังศพ 32 จุด ในวันต่อมา พบศพชาวโรฮิงญาถูกฝัง 26 ศพ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  มีคำสั่ง วันที่ 2 พ.ค. 58 ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งสืบสวนหาตัวผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์  ให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก ลงพื้นที่ติดตามคดี  ต่อมา  3 - 4 พ.ค. ตำรวจยื่นขอ ออกหมายจับผู้ต้องหา 8 คน จากศาลจังหวัดนาทวี ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์  หน่วงเหนี่ยวกังขัง  เรียกค่าไถ่  ก่อนจับกุมผู้ต้องหาได้  4 คน    และ  1 ในนั้น คือ นายประสิทธิ์ เหล็มเหล๊ะ อดีตรองนายกเทศมนตรีปาดังเบซาร์  
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น   เซ็นคำสั่งย้ายด่วนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล พร้อมด้วย 5 เสือ สภ .ปาดังเบซาร์ และ 7 ตำรวจที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้อง หรือเรียกรับผลประโยชน์ขบวนการค้ามนุษย์  และ 6 พ.ค. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  สั่งย้ายด่วนตำรวจ 38 นาย  จนทำให้ ขบวนการค้ามนุษย์ ตัดสินใจลอยแพผู้อพยพ 152 คน  ในสภาพอิดโรย 
29 ก.ย. พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ หัวหน้างานสอบสวน  แถลงสรุปคดีที่รวบรวมพยานหลักฐานมานาน 5 เดือนเต็ม ออกหมายจับผู้ต้องหา 153 คน ได้ตัวแล้ว 91 คน ยังหลบหนี 62 คน   ส่วนคดีฟอกเงิน ออกหมายจับ 79 คน ได้ตัว 40 คน  หลบหนี 39 คน    มี ผู้ต้องหาสำคัญ อย่าง โกจง  บรรจง ปองผล  อดีตนายก เทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์   โกโต้ง หรือ นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ อดีตนายก อบ จ.สตูล และโกหนุ่ย   นายสุวรรณ แสงทอง เจ้าของแพปลาใน จ.ระนอง รวมถึง พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก พร้อมสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็น สั่งฟ้องให้อัยการจังหวัดนาทวี  รวม 699 แฟ้ม  271,300 แผ่น  นำส่งอัยการสูงสุด  1 ต.ค.  
9 ต.ค. 58 ประธานศาลฎีกาให้โอน ย้ายคดีค้ามนุษย์ของ สภ.ปาดังเบซาร์  ไปยังศาล อาญาแผนกคดีค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นแผนกที่ได้เปิดขึ้นใหม่ เปิดทำการในวันที่ 1 ต.ค. 2558 และเพื่อความต่อเนื่อง ในการดำเนินการทางคดี จึงให้ย้ายผู้ต้องหาทั้งหมด ไปควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำในพื้นที่กรุงเทพฯ  ก่อนที่จะมีการนัดตรวจพยานในวันนนี้