svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

สอบเหยื่อรถตู้มรณะเพิ่ม

03 พฤศจิกายน 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตร.สอบปากคำผู้ขับขี่รถตู้ และผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมแจ้งข้อหาขับขี่รถโดยประมาท ชนทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหายเป็นเหตุให้มีผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ และมีผู้ถึงแก่ความตาย ส่วนบรรยากาศรับศพผู้เสียชีวิต เป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ ญาติอยากให้เป็นครั้งสุดท้าย




เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 3 พฤศจิกายน บรรดาญาติของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ รถตู้โดยสาร เส้นทาง กรุงเทพฯ-ศรีราชา ทะเบียน 15-6539 กทม. ชนแท่งแบริเออร์ขอบทางแล้วพลิกคว่ำบนทางด่วนบูรพาวิถี ฝั่งขาออก กิโลเมตรที่ 1+500 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. ช่วงเหนือศูนย์การแสดงสินค้า ไบเทค บางนาเบื้องต้นมีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 4 ราย เป็นหญิง 3 ราย และชายอีก 1 ราย



ส่วนผู้บาดเจ็บมี 7 ราย สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตได้แก่ น.ส.ปัทมา บุติพันคา อายุ 24 ปี พนักงานรพ.ยันฮี,น.ส.สุวภัทร อรุณวงศ์ ณ อยุธยา อายุ 31 ปี น.ส. ณัฐวดี วงศ์แพทย์ อายุ 38 ปี และนายณัฐพล เปียสันเทียะ อายุ 50 ปี ลูกจ้างแขวงกรมทาง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ซึ่งทางญาติได้ติดต่อขอรับศพไปบำเพ็จกุศลยังบ้านเกิดที่นิติเวชโรงพยาบาลจุฬาลวกรณ์



นางแปร บุติพันคา มารดาของนางสาวปัทมา บุติพันคา อายุ 24 ปี พนักงานรพ.ยันฮี เปิดเผยว่าตนได้เดินทางมาจากจังหวัดหนองบัวลำภู หลังทราบข่าวการเสียชีวิตของลูกสาว โดยก่อนเกิดเหตุลูกสาวได้โทรศัพท์มาบอกว่าจะเดินทางไปหาเพื่อนที่จังหวัดชลบุรี เนื่องจากตรงกับวันหยุดพักและได้โอนเงินให้เป็นค่าใช้จ่ายในขณะที่ตนเองมักจะกล่าวเตือนให้ลูกสาวระวังตัวเนื่องจากเป็นห่วงเพราะลูกสาวชอบเดินทาง ตนเองได้แต่สวดมนต์ภาวนาให้ลูกปลอดภัยแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงๆโดยจะนำศพลูกสาวกลับไปดำเนินการตามประเพณีที่จังหวัดหนองบัวลำภู



ขณะที่นางสาวปราถนา จันทร์สว่าง ซึ่งได้เดินทางมารับศพนางสาวณัฐวดี พี่สาวที่เสียชีวิตระหว่างจะเดินทางกลับไปยังที่ทำงาน หลังเดินทางไปเยี่ยมลูกชาย ที่ป่วยเป็นไข้เลือดออกที่จังหวัดแพร่และลูกสาววัยขวบเศษ กล่าวด้วยความเสียใจเนื่องจากตนเองได้ชวนให้กลับพร้อมกันในวันจันทร์แต่พี่สาวยืนยันว่าจะกับวันอาทิตย์จนมาเกิดเหตุการณ์สลดขึ้น. ที่ผ่านมาเคยดูแต่ข่าวและภาวนาว่าอย่าให้เป็นคนในครอบครัวไม่คิดว่าจะเป็นคนในครอบครัวตนเองจนได้ ฝากถึงคนขับรถตู้ควรมีความระมัดระวังและอยากให้ข่าวนี้เป็นข่าวสุดท้าย โดยจะนำร่างพี่สาวไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดแพร่ต่อไป



ในขณะที่นางราตรี ฉลูพันธ์ ภรรยานายณัฐพล ซึ่งได้เดินทางมารับศพเพื่อนำกลับไปบ้านเกิดที่จังหวัดนครราชสีมา เผยปกติสามีจะไม่ค่อยเดินทางไปกับรถตู้โดยสารเพราะจะใช้รถส่วนตัวเป็นประจำวันเกิดเหตุได้ให้น้องชายขับรถกลับไปก่อนและได้นั่งรถตู้โดยสารตามกลับไปจะเกิดอุบัติเหตุทั้งที่ตนเองนั่งรถตู้โดยสารเป็นประจำซึ่งคนขับรถมีทั้งดีและไม่ดีบางคนขับรถเร็วและขับประมาทจึงฝากไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับอุบัติเหตุในครั้งนี้

logoline