แก้ปัญหาจราจรแยกเกษตรและแผนรื้อสะพานข้ามแยกรัชโยธิน

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 27 ต.ค.2558 ที่กองบังคับการตำรวจจราจร(บก.จร.) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย,พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ ง่วงบรรจงสมาชิกสภากรงเทพมหานคร ประธานคณะกรรมการรักษาความสะอาดและสิ่งแวดล้อม, พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารื่อเพื่อวางแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจรในบริเวณดังกล่าว

พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากที่มีการรื้อสะพานข้ามแยกเกษตรเนื่องจากต้องสร้างรถไปไฟฟ้าสายสีเขียว ทำให้มีปัญหาด้านการจราจร แต่ทางสภากรุงเทพก็ได้มีการติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่และผู้รับเหมา เพื่อที่จะกำชับหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาอยู่ตลอด ซึ่งการจราจรในบริเวณดังกล่าวเริ่มดีขึ้น ตอนนี้เป็นการแก้ไขปัญหาไปวันต่อวัน แต่จะมีการประเมินปัญหาทุกวันเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขด้านการจราจรด้วย นอกจากนี้หลังจากที่ได้ประสานงานกันทาง บก.จร.และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ก็ทราบว่าเจ้าหน้าที่ยังขาดงบประมาณในด้านการจราจรอยู่ ซึ่งก็จะมีการจัดสรรงบประมาณเพื่อสนันสนุนงานในส่วนนี้ด้วย นอกจากนี้ของประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ที่ใช้ถนนดังกล่าวหากไม่มีบ้านหรือที่ทำงานอยู่ในบริเวณใกล้เคียงถึงบริเวณหลักสี่ ขอให้มาใช้เส้นทางวิภาวดี เพื่อความสะดวก
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการรื้อสะพานข้ามแยกเกษตรเพื่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวไปแล้วนั้นก็ยังมีแผนในการรรื้อสะพานข้ามแยกรัชโยธินเพื่อสร้างอุโมงข้ามแยกรัชโยธินแทนด้วย ซึ่งอยู่ในระยะการยื่นเสนอแผนงาน ขณะนี้ได้ยื่นเสนอไปแล้ว3รูปแบบ โดยจะใช้ระยะเวลาประมาณ2-8เดือน แต่ถึงอย่างไรก็ต้องรอให้รื้อสะพานข้ามแยกเกษตรเสร็จสิ้นเสียก่อนเพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาการจราจรมากกว่าเดิม คาดว่าน่าจะเริมดำเนินการช่วงเดือนเมษายน(เม.ย.2559) เพราะเจ้าหน้าที่จะต้องมีการเตรียมแผนการจราจร และการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เกิดความชัดเจนแกประชาชนที่ใช้เส้นทาง ส่วนผู้ค้าที่อาจจะได้รับผลกระทบระหว่างที่มีการรื้อสะพานข้ามแยกรัชโยธินนั้นอาจจะต้องมีการศึกษาดูว่ามีผลกระทบอะไรบ้างแล้วจะแก้ไขได้อย่างไร ส่วนเรื่องงบประมาณที่ทางจะได้รับมอบมานั้น จะนำไปดำเนินการติดตั้งกล้องเพื่อตรวจจับความเร็ว รถที่ผิดวินัยจราจร และจัดซื้อจอภาพไปติดตั้งใน บก.จร.ด้วย เนื่องจากจอภาพนั้นมีอายุการใช่งานที่นานทำให้เกิดจอดับไปหลายจอ นอกจากนี้จะใช่เทคโนโลยีดังกล่าวมาช่วยเรื่องการวิเคราะห์ปัญหาและวินัยจราจรในอนาคตด้วย