เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้กุฏิสงฆ์อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่จึงเร่งระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้ พร้อมทั้งได้ประสานขอรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลพื้นที่ข้างเคียง อีกจำนวน 2 คัน รวมทั้งสิ้น 4 คัน เพื่อช่วยกันฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงและไม่มีท่าที่จะสงบลงได้ง่าย เนื่องจากกุฏิสงฆ์นั้นมีลักษณะที่เก่าประกอบกับทำจากไม้จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้ระยะเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที จึงสามารถที่จะควบคุมเพลิงไว้ได้
จากการสอบถามพระอธิการเสรี เตชะวโร อายุ 57 ปี เจ้าอาวาสวัดดอนแซะ เล่าว่ากุฏิสงฆ์หลังนี้เป็นกุฏิหลังใหญ่ 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ อายุมากกว่า 60 ปีชั้นบนเป็นไม้ ซึ่งเป็นที่จำวัตรของพระสงฆ์ในวัดส่วนชั้นล่างเป็นปูนใช้เป็นที่เก็บเครื่องครัวต่างๆ ถ้วยชาม โต๊ะเก้าอี้ผ้าที่ไว้ใช้ผูกประดับเวลามีงาน และก็เป็นห้องที่ท่านจำวัดอยู่ด้วยโดยในระหว่างที่ตนกำลังจำวัดอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงพระที่อยู่ชั้นบนวิ่งและตะโกนเสียงดังว่าไฟไหม้ ตนจึงรีบลุกออกมาดูพบว่าไฟกำลังลุกไหม้ที่ชั้นบนของกุฏิพระสงฆ์ทั้งหมดต่างรีบวิ่งหนีเอาตัวรอดและรีบไปตีกลองเรียกชาวบ้านให้มาช่วยกันดับไฟและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและรถดับเพลิงให้มาช่วยดับไฟ
สำหรับวัดดอนแซะมีพระสงฆ์จำวัดพรรษาอยู่ทั้งหมด 8 รูปซึ่งส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้คาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรเนื่องจากกุฏิสงฆ์ดังกล่าวนั้นได้ก่อสร้างมานาน 60 ปี อาจทำให้สายไฟชำรุดในบางจุด แต่อย่างไรก็ตามก็จะต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบหาสาเหตุที่เท็จจริงต่อไปส่วนมูลค่าความเสียหายในเบื้องต้นประมาณ 5 ล้านบาท