svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ธปท.คาดปี 59 จีดีพีโต 3.6%

21 ตุลาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย มองมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐเห็นผลชัดปีหน้า คาดจีดีพีโต 3.6-3.7% ส่วนปีนี้คงเป้าโต 2.7%

ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย วิรไท สันติประภพ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนครั้งแรกหลังรับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2558 ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ยังต้องใช้เวลาซึ่งคาดว่าจะเห็นผลชัดเจนต่อเศรษฐกิจในปี 2559

โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปีหน้าจะขยายตัวได้ 3.6-3.7% มาจากเม็ดเงินจากการลงทุนภาครัฐ การส่งออกไปยังสหรัฐเริ่มดีขึ้น และภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตสูง ขณะที่ปีนี้มองว่าจะขยายตัวได้ 2.7% ตามเป้าที่กำหนดไว้

ส่วนเศรษฐกิจไทยในระยะสั้นมีความเสี่ยงด้านการเติบโตของจีดีพี มากกว่าเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ โดยจีดีพี 2-3 ปีข้างหน้ายังโตต่ำหากเทียบ 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งแบงก์ชาติจะดำเนินนโยบายการเงินที่เอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แต่ยอมรับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ 5-6ปี จะทำให้ประชาชนไปลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง ฐานเงินออมประเทศต่ำ และอาจกระทบต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจในระยะยาว

ส่วนเศรษฐกิจระยะกลางถึงระยะยาว จะมีการปรับโครงสร้าง เช่น การเพิ่มการลงทุนขนาดใหญ่ โครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาคุณภาพแรงงาน เพื่อเพิ่มการแข่งขันในอนาคตโดยสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการเป็นสิ่งที่ถูกต้อง นอกจากนี้ต้องยกระดับคุณภาพเกษตรกรไทย เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรมากกว่าการเพิ่มราคาสินค้าเกษตร

ส่วนการทำงานในตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ในการดูแลเศรษฐกิจมองว่าความเห็นต่างเรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องปกติ และการแก้เศรษฐกิจไม่ได้มีสูตรเดียวการทำงานของตนจะดำเนินการเหมือนผู้ว่าในอดีตและจะพยายามทำตามหน้าที่ในการรักษาเสถียรภาพสื่อสารถึงความเสี่ยงต่างๆที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจไทยได้ นอกจากนี้จะผลักดันให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นธนาคารกลางระดับ World Class

ด้านความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป มี 3 ด้าน ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจจีน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อยู่ในระดับต่ำ ทิศทางนโยบายการเงินของประเทศหลักมีความผันผวน โดยเฉพาะการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด

ซึ่งหากมองพื้นฐานเศรษฐกิจไทยพบว่ายังแข็งแกร่งและรองรับกรณีเฟดขึ้นดอกเบี้ยได้ โดยเฉพาะด้านเสถียรภาพต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ดีดุลบัญชีเดินสะพัดสูงถึง 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 6% ของจีดีพี แม้อาจมีเงินทุนไหลออกบ้างก็ตาม ขณะที่การออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนยังพึ่งพาตลาดในประเทศจึงไม่ได้รับผลกระทบ

ส่วนค่าเงินบาทของไทยมีความผันผวนน้อยกว่าเงินสกุลอื่นๆเพราะประเทศไทยยังได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันที่อ่อนค่าลง

logoline