svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ลุ้นอัยการฟ้อง-ไม่ฟ้อง"ธัมมชโย"รับเช็คบริจาค 1,260 ล้าน

21 ตุลาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) - 20 ต.ค.58 -- ลุ้นอัยการฟ้อง-ไม่ฟ้อง "ธรรมกาย-ธัมมชโย" ปมรับเช็คบริจาค 1,260 ล้านบาท หลังดีเอสไอชี้มูลร่วมสนับสนุน "ศุภชัย" ยักยอก-รับของโจร ขณะที่วัดชื่อดังชี้แจงได้แค่ 70% อ้างเอกสารการเงินหายไปกับน้ำท่วม

พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผบ.สำนักคดีการเงินการธนาคาร กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ในส่วนของการติดตามเส้นทางการเงินของเช็คสั่งจากจำนวน 878 ฉบับ มูลค่า 11,367 ล้านบาท ว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 146/2556 ที่ดีเอสไอสรุปสำนวนสั่งฟ้องอัยการไปแล้วตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งมีการแจ้งข้อหากับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯและพวกรวม 4 ราย โดยอัยการขอให้ดีเอสไอสอบสวนเพิ่มเติมประเด็นเส้นทางเช็คสั่งจ่ายจำนวน 878 ฉบับ ซึ่งล่าสุดดีเอสไออยู่ระหว่างการเร่งสอบสวนเพิ่มเติมที่คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนในประเด็นดังกล่าวส่งให้อัยการได้ภายในสิ้นเดือนต.ค.นี้ จากนั้นอัยการจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะสั่งฟ้องบุคคลใดเพิ่มเติมหรือไม่ ตามที่ดีเอสไอสรุปข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ทั้งนี้จากการสอบสวนได้ข้อสรุปพบว่าเช็ค 878 ฉบับ จำนวน 11,367 ล้านบาท ถูกสั่งจ่ายไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้อง 6 กลุ่มประกอบด้วย 1. วัดพระธรรมกาย พระธัมมชโย มูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง พระครูปลัดวิจารย์ และพระลูกวัดอื่น ๆ 2. ญาติธรรม และบุคคลใกล้ชิด นายศุภชัย 3. บริษัท เอส.ดับบลิว. โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด 4. สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี 5. นายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ นายจีรเดช วรเพียรกุล และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนรัฐประชา และ6. นิติบุคคล เงินโอนภายในประเทศและต่างประเทศ การถอนเงินสด แคชเชียร์เช็ค
พ.ต.ท.ปกรณ์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้เรียกสอบปากคำบุคคลที่มีชื่อเป็นผู้รับเช็คทั้งหมด แม้บางรายจะไม่เข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกแต่การสอบสวนโดยรวมสามารถสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปแล้วจำนวนมาก และมีข้อเท็จจริงเพียงพอในการสรุปสำนวนส่งให้อัยการพิจารณาเพิ่มเติมโดยสรุปพบว่าเช็คที่สั่งจ่ายไปยังกลุ่มบุคคลต่าง ๆ ไม่มีมูลหนี้ต่อกันโดยการนำเงินออกไปจากสหกรณ์เป็นจำนวนมาก หรือการระบุว่าเป็นการบริจาคเพื่อศาสนาจึงน่าจะเป็นการกระทำที่ไม่ชอบและน่าจะเป็นไปเพื่อสนับสนุนให้นายศุภชัยยักยอกทรัพย์สหกรณ์หรือรับของโจรโดยเฉพาะการบริจาคให้วัดพระธรรมกาย พระธัมมชโยและมูลนิธิจันทร์ ขนนกยูงฯผ่านการสั่งจ่ายเช็คจำนวน 22 ฉบับ วงเงินกว่า 1,260 ล้านบาท จากการสอบปากคำสามารถชี้แจงการรับเงินบริจาคได้ประมาณ 70% ส่วนใหญ่ระบุว่านำเงินไปก่อสร้างศาสนสถาน แต่เอกสารหลักฐานที่นำมาชี้แจงบางส่วนอ้างว่าสูญหายจากน้ำท่วม จึงชี้แจงได้ไม่ครบถ้วน ดังนั้นต้องไปพิจารณาระหว่างคำให้การกับข้อเท็จจริงอีกครั้งว่าอัยการจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องบุคคลใดเพิ่มเติมในคดีดังกล่าวหรือไม่
พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กล่าวว่า พนักงานสอบสวนจะนำสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมในส่วนของเส้นทางการเงินจากการสั่งจ่ายเช็คของนายศุภชัยให้พนักงานอัยการภายในเดือนต.ค.นี้ โดยอัยการจะเป็นผู้ใช้ดุลพินิจสั่งคดีว่าจะฟ้องบุคคลใดเป็นจำเลยร่วมในคดีบ้าง ส่วนกรณีที่สหกรณ์เคยทำความตกลงว่าจะไม่ฟ้องคดีแพ่งและอาญากับวัดพระธรรมกายหากมีการคืนเงินบริจาคนั้น. เป็นการตกลงระหว่างคู่กรณีไม่เกี่ยวข้องกับสำนวนคดีของดีเอสไอ

logoline