รณรงค์ต้านใช้รุนแรงในเด็กและสตรีมีครรภ์ หน้าแบงก์กรุงศรีฯ

จากเหตุการณ์ที่มีการรวมกลุ่มรณรงค์ต่อต้านการใช้ความรุนแรงในเด็กและสตรีมีครรภ์ขึ้นบนเฟสบุ๊ค โดยมี เฟสบุ๊ค Pemika Thanalumlerskul เป็นผู้เขียนข้อความชวนรณรงค์ครั้งนี้ในวันนี้(20 ต.ค. 58) เวลา 09.00 น.ได้มีกำหนดรวมตัวกัน ที่หน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ ถนนพระราม 3 ขึ้น เพื่อรณรงค์ต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อ เด็ก สตรีมีครรภ์ และผู้สูงอายุ โดยธนาคารกรุงศรีฯเป็นต้นสังกัดของสาวเจ้าของรถเบนซ์ป้ายแดงที่เกิดกรณี"สาวท้องถูกถีบ"
หนึ่งในเครือข่าย ที่ออกแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ครั้งนี้ ที่หน้าธนาคารกรุงศรีฯ สำนักงานใหญ่ บอกว่าต้องการให้ภรรยาของนายพล แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมมากกว่าการเจรจาที่ออกมาแถลงข่าวที่ผ่านมา แต่อยากให้มีจิตสำนึก ต่อสังคมส่วนร่วม มีวุฒิภาวะทางอารมณ์มากกว่านี้ ไม่ให้ใช้ความรุนแรง ต่อ เด็ก คนชรา และสตรีมีครรภ์ และต้องการคำตอบว่า ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จะมีวิธีจัดการกับบุคลากรในองค์กรนี้ได้อย่างไร จะดำเนินการต่อภรรยานายพล ท่านนี้อย่างไรต่อไป
การออกแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในครั้งนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีทหาร ตำรวจ และจนท.ของธนาคารคอยสังเกตการณ์บริเวณโดยรอบ ซึ่งเมื่อช่วงเวลา 11 นาฬิกา ที่ผ่านมา ผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวก็แยกย้ายกันกลับ

โดยก่อนหน้ามีการชุมนุม ได้เกิดเหตุการณ์พนักงานธนาคารกรุงศรีอยุธยาขับขี่รถยนต์เบนซ์ เกิดมีปากเสียงกับ หญิงตั้งครรภ์ 4 เดือน ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า โดยสาเหตุมาจากลูกชายวัย 2 ขวบของหญิงตั้งครรภ์ได้เปิดประตูรถไปถูกรถเบนซ์ป้ายแดง ขณะจอดอยู่ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าย่านทองหล่อ ทำให้เกิดมีปากเสียงและเกิดทำร้ายร่างกายจนทำให้หญิงตั้งครรภ์ 4 เดือนได้รับบาดเจ็บ ต้องเข้ารักษาตัวที่รพ.คามิลเลียน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา และได้มีการเผยแพร่ภาพผ่านทางโซเซียล ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างรุนแรงต่อมาวันที่ 16 ตุลาคม 58 ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ประธานองค์กรทำความดี และพล.ร.ต.สมชาย ณ บางช้าง ตัวแทนจากกองทัพเรือ ได้เดินทางมายัง สน.ทองหล่อ เพื่อเป็นตัวแทนในการเจรจาไกล่เกลี่ยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมด้วยคู่กรณีทั้งสองฝ่าย จนคดีได้คลี่คลายลง แม้จะยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่บนโลกโซเชียลก็ตาม

ก่อนหน้าการชุมนุมหน้าสำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงศรีฯ เฟสบุ๊ค Pemika Thanalumlerskul ได้โพสต์ข้อความ โดยระบุว่า "เนื่องจากมีเพื่อนได้แจ้งข่าวประเด็นดังกล่าวนี้ ได้มีการเคลียร์จบยอมความด้วยกันแล้วทั้งสองฝ่าย ดังนั้นวันนี้สิ่งที่ดิฉันทำได้คือไปในฐานะการรณรงค์ต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อเด็ก สตรีมีครรภ์และผู้สูงอายุนะคะจากที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่สมควรยกเป็นตัวอย่างสำคัญแก่ประชาชน ในการแสดงจุดยืนของสตรีมีครรภ์ เด็ก ผู้สูงอายุ ให้สังคมตระหนักถึงการให้ความสำคัญต่อบุคคลเหล่านี้ ไม่ว่าจะเรื่องด้วย งดการกระทำความรุนแรง การเอารัดเอาเปรียบ หรือแม้แต่การถูกล่วงละเมิดทางเพศ เราจะไม่มีการเรียกร้องให้อีกฝ่ายต้องรับผิดชอบแล้วนะคะ เนื่องจากเหตุผลตามข้างต้นค่ะ มาร่วมรณรงค์ให้สังคมไทยให้ความสำคัญต่อบุคคลเหล่านี้กันเยอะๆนะคะ ขอบคุณค่ะ"