นางนาฑยา ศรีอินทร์ กล่าวว่า ในคืนเกิดเหตุตนเดินทางไปพร้อมกับบิดาด้วย ตอนแรกบิดาของตนมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก จึงได้นำตัวไปส่งที่โรงพยาบาลกระบี่ ซึ่งหมอกบอกว่าเส้นเลือดในหัวใจตีบต้องส่งไปขยายเส้นเลือด จึงได้ตัดสินใจพาไปที่ รพ.กรุงเทพภูเก็ต โดยรถของโรงพยาบาลออกจาก รพ.กระบี่ ช่วงดึกวันที่ 11 ต.ค. แต่ระหว่าวงพบกลุ่มม็อบที่กำลังชุมนุมกันอยู่ที่ทางแยกจึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำทางอ้อมไปทางอื่น แต่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมอีกจุดหนึ่งมาขวางทางไว้ กว่าจะผ่านไปได้แต่ต้องเสียเวลาไปประมาณ20นาที ช่วงนั้นบิดาเริ่มอาการหนักต้องปั้มหัวใจทำให้ต้องแวะที่รพ.ถลางชั่วคราว ก่อนถึงโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทำให้รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาและเชื่อว่า สาเหตุที่ต้องล่าช้าส่วนหนึ่งสาเหตุจากถูกผู้ชุมนุมปิดกั้นถนน
ในเบื้องต้นสามีได้แจ้งไปยังสภ.ถลาง ด้วยวาจาไปแล้ว ว่าจะดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุ ซึ่งหลังจากเสร็จงานศพก็จะเดินทางเข้าแจ้งความอีกครั้ง ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาว่า ทางญาติไม่ติดใจเอาความนั้นไม่เป็นความจริง เพราะยังไม่ได้พูดกับใครเลย รวมทั้งที่รพ.กระบี่ ชีวิตคนทั้งชีวิตใครบ้างจะไม่เสียใจ สาเหตุที่ไม่ได้ดำเนินการ เนื่องจากยุ่งกับงานศพบิดา ซึ่งพี่น้องทุกคนมีความเห็นตรงกันว่าจะต้องมีผู้รับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้น