คุณวงศกรณ์ประสิทธิ์วิภาต ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค เปิดเผยว่า นับเป็นอีกหนึ่งแผนงานเนื่องในโอกาสครบรอบ 30ปีบริษัท ด้วยการเปิดตัวบ้านรุ่นใหม่พร้อมกัน 12 แบบ เพื่อตอบโจทย์ให้ตรงกับความต้องการของผู้ซื้อบ้านได้ครบในทุกเซกเมนต์โดยมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 106530 ตร.ม. ให้ลูกค้าสามารถเลือกได้ทั้งรูปแบบและทำเลที่หลากหลายประกอบด้วย แบบบ้านใหม่ในโครงการ เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ จำนวน 2 แบบ ขนาด 450 ตร.ม. และ 530ตร.ม. ราคา 2560 ล้านบาท ทำเล สุขุมวิท 77สุวรรณภูมิ และรังสิต โครงการ เพอร์เฟค เพลส จำนวน 5 แบบ ขนาด 147204 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.19 ล้านบาท ทำเล แจ้งวัฒนะ, ราชพฤกษ์, รัตนาธิเบศร์, รังสิต, รามคำแหงสุวรรณภูมิ, สุขุมวิท 77สุวรรณภูมิ และ พัฒนาการศรีนครินทร์ และโครงการ เพอร์เฟค พาร์ค จำนวน 5 แบบ ขนาด 106146 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท ทำเล รังสิต, ราชพฤกษ์, สุวรรณภูมิ, บางบัวทอง และ พระราม 5บางใหญ่
ทั้งนี้ แบบบ้านรุ่นใหม่ทั้งหมด พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด EcoCool เพื่อการอยู่อาศัยที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่การออกแบบโดยคำนึงถึงทิศทางลม ความเย็นสบาย แสงสว่างจากธรรมชาติตลอดจนการเลือกใช้วัสดุที่ช่วยประหยัดพลังงานและลดความร้อน อาทิเช่น อิฐมวลเบาฝ้าเชิงชายระบายอากาศ ฝ้ายิบซั่มฟลอยด์กันความร้อน กระจกตัดแสง หลอดไฟ LED เป็นต้น ซึ่งแนวคิด Eco Concept เป็น เทรนด์การออกแบบที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม
แบบบ้านรุ่นใหม่นี้ออกแบบโดยเน้นให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าปัจจุบันที่ชอบความเรียบง่าย ทันสมัย มีจุดเด่นอยู่ที่ฟังก์ชั่นภายในที่มีพื้นที่ใช้สอยครบถ้วนและให้ความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นภายให้บ้านที่มีพื้นที่กว้าง โปร่งโล่งด้วยเพดานสูงห้องรับแขกและห้องอาหารเป็นพื้นที่โล่งกว้างเชื่อมถึงกัน เพิ่มฟังก์ชั่นพิเศษเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในบ้านขนาดใหญ่และขนาดกลางเช่น ห้องนอนชั้นล่าง ห้องพักผ่อนชั้นบน ส่วนทำงาน สำหรับแบบบ้านขนาดเล็กออกแบบพื้นที่ใช้งานแบบFlexibleFunction ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลายตามต้องการส่วนภายนอกมีการใช้เฉดสีแบบ Natural Scheme ที่กลมกลืนกับธรรมชาติตกแต่งเพิ่ม Shading & Temper เพิ่มความหรูหรา อีกทั้งยังช่วยกันแดดและความร้อน
บริษัทฯยังให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีการอยู่อาศัยที่ทันสมัย มาใช้เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าโดยได้นำนวัตกรรมระบบ ActiveAIRflow จากเอสซีจีมาใช้ในบ้านรุ่นใหม่ จำนวน 4 แบบ โดยคุณณรงค์เวทย์ วจนพานิช ผู้อำนวยการฝ่ายบริการโครงการ บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างจำกัด เปิดเผยว่า เอสซีจีมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยมาอย่างต่อเนื่องและล่าสุดได้พัฒนาระบบบ้านภายใต้แนวคิด CoolComfort Technology เพื่อมุ่งเน้นการสร้างสภาวะอยู่สบายและคุณภาพอากาศภายในบ้านที่ดี สอดคล้องกับวิถีการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านบ้านจึงถูกปิดไว้ทั้งวัน เกิดการสะสมความร้อนเมื่อกลับเข้าบ้านในช่วงเย็นจะรู้สึกอบอ้าว โดยแนวคิด CoolComfort Technology นี้ มี 2 องค์ประกอบสำคัญ คือ 1. การออกแบบและเลือกใช้วัสดุก่อสร้างบ้าน ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย ได้แก่การใช้ผนังอิฐมวลเบาและการติดตั้งฉนวนใยแก้วกันความร้อนบนฝ้าเพดานแบบ LowThermal Bridge Ceiling System เพื่อสร้างกลไกการหน่วงนำความร้อนเข้าสู่ภายในตัวบ้านพร้อมทั้งการออกแบบ GreenLandscape เพื่อเสริมสร้างความร่มรื่นรอบตัวบ้าน และ 2.การติดตั้งระบบ Active AIRflow นวัตกรรมการถ่ายเทอากาศและระบายความร้อนออกจากตัวบ้านและโถงหลังคาเร่งกลไกการระบายอากาศและความร้อนออกจากตัวบ้านได้อย่างรวดเร็วพร้อมการควบคุมการทำงานผ่าน Smart Mobile Application และที่สำคัญระบบ ActiveAIRflow นี้ ใช้พลังงานสะอาดจาก Solar Cell เป็นพลังงานหลักในการทำงาน ด้วยการทำงานของระบบทั้งสององค์ประกอบร่วมกันนี้ทำให้บ้านมีอากาศถ่ายเทตลอดเวลา แม้จะปิดบ้านไว้ตลอดทั้งวันตัวบ้านไม่อบอ้าวหรืออับชื้น ผู้อยู่อาศัยจะรู้สึกปลอดโปร่ง ทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานจากการใช้เครื่องปรับอากาศลงได้ถึง 16-20% (จากการทำ EnergySimulation)
สำหรับกลยุทธ์การตลาดในไตรมาส4 นอกจากการพัฒนาแบบบ้านรุ่นใหม่แล้ว พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ยังมีสิทธิพิเศษทางการเงินให้กับผู้ซื้อบ้านและทาวน์เฮ้าส์ทุกโครงการรวม 30 โครงการ ด้วย อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3% คงที่นาน 30 เดือนโดยความร่วมมือของ 4 ธนาคารชั้นนำ ได้แก่ กรุงไทย ออมสิน ธนชาต และ ยูโอบี ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ซื้อบ้านประหยัดค่าใช้จ่ายโดยจ่ายน้อยกว่าปกติเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนเงินที่จะต้องผ่อนชำระด้วยอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน5-6% โดยลูกค้าไม่ต้องกังวลกับการเปลี่ยนแปลงของดอกเบี้ย ตลอดระยะเวลา30 เดือน นอกจากนี้ ยังจะมี Cash Back ให้กับลูกค้าเพิ่มเติมด้วยเมื่อบวกกับมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ เชื่อมั่นว่าจะมีผลในการผลักดันยอดขายของบริษัทในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้