ภาพแรกคือภาพน้องแอฟสาวน้อยวัย 3 ขวบ ที่เป็นนักล่าฝันมือใหม่ ซึ่งไม่คุ้นเคยกับเวทีการประกวดและไม่รู้ว่าเธอมาที่นี่ทำไม (ผู้เขียนชอบชุดนี้มาก มันคือชุดว่ายน้ำที่สวยฝุดๆ ^^)
ภาพน้องเอญ่าวัย 5 ขวบ สาวน้อยที่เคยได้รับรางวัลชนะเลิศจากงานก่อนมาในชุดแอโรบิคเธอจะมีออร่าแห่งความมั่นใจมากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน
บนเวทีของการประกวดเราไม่ได้วัดแค่ชุดที่ใส่หรือบุคลิกภาพความมั่นใจซึ่งในช่องเกณฑ์การให้คะแนนได้ถูกแบ่งออกเป็นหลายส่วน น้องบางคนได้คะแนนการแต่งกายมากแต่คะแนนช่องอื่นอาจจะไม่เยอะ
นอกจากนี้กรรมการที่ตัดสินก็มีหลายคนผลคะแนนของกรรมการแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน
ตัวช่วยในการเพิ่มคะแนนในการประกวดคือเครื่องแต่งกายและการคิดโชว์ที่ต้องเตรียมเพลงและอุปกรณ์ให้พร้อม
ชุดที่ใส่ต้องตรงตามคอนเซ็ปต์การประกวดด้วยนะ แล้วอย่าลืมพร๊อพล่ะ
การเลือกชุดและพร๊อพเป็นกุญแจด่านแรกที่มองเห็นควรคำนึงถึงความแตกต่างเป็นสิ่งสำคัญหากเลือกชุดธรรมดามาย่อมเจอการเปรียบเทียบกับคู่แข่ง
การโชว์ที่ดีควรทำให้ผู้ชมตื่นตาไม่ง่วงระหว่างชมการแสดง
หากเตรียมการมาดีมีชัยกว่าครึ่งอย่าลืมอ่านกติกาการประกวดดีๆ โดยเฉพาะเกณฑ์การให้คะแนน
อย่าลืมพกความมั่นใจมาแบบเกินร้อยเลยนะ
เมื่อน้องๆได้เตรียมความพร้อมมาแล้ว พอขึ้นเวทีจะเพิ่มขีดความสามารถและความมั่นใจซึ่งเป็นพลังด้านบวกให้กับน้องๆ
ซุนวู กล่าวไว้ว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง
"หากรู้เขารู้เราแม้นรบกันตั้งร้อยครั้งก็ไม่มีอันตรายอันใด
ถ้าไม่รู้เขาแต่รู้เพียงตัวเรา แพ้ชนะย่อมก้ำกึ่งอยู่หากไม่รู้ในตัวเขาตัวเราเสียเลย ก็ต้องปราชัยทุกครั้งที่มีการยุทธนั้นแล ซึ่งรู้จักการวางแผนที่ดีมีสิทธิที่จะชนะทุกร้อยครั้งเหมือนสิงโต
แม้กระนั้นโจโฉ กล่าวไว้ว่า อันการสงครามจะหมายเอาชนะฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องมีชนะบ้าง แพ้บ้าง เป็นปกติ เวลาแพ้ก็อย่าเสียใจท้อใจ เวลาชนะก็อย่าหยิ่งพยองคิดว่าตัวเองเป็นหนึ่งในใต้หล้า
ในภาพความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่โจโฉกล่าวสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้มากกว่าเพราะทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีคำว่าเพอร์เฟคได้ตลอด ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน