ขณะที่ยอดผู้ป่วยจากศูนย์เอราวัณพบว่า มีผู้บาดเจ็บเข้ารับการรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ แล้ว จำนวน 123 ราย โดยในส่วนของโรงพยาบาลตำรวจ มีผู้บาดเจ็บที่มีอาการสาหัส จำนวน 6 ราย ซึ่งมี 2 ราย อาการอยู่ในขั้นวิกฤต
โดยเป็นชายชาวญี่ปุ่นชื่อ นายโคตะ อันโดะ (Mr.KOTO ANDO) อายุ 31 ปี ผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บจากการถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณแผนหลังจำนวนหลายแห่ง เมื่อผู้ป่วยชาวญี่ปุ่นเดินทางมาถึงที่โรงพยาบาลได้หมดสติจากการเสียเลือดมาก ทีมแพทย์ได้รีบผ่าตัดรักษาอาการให้โดยด่วน โดยที่ผู้ป่วยมีแผลที่บริเวณแผ่นหลังจำนวนหลายแผลทะลุไปถึงช่องท้อง และอวัยวะภายในมีการฉีกขาดจำนวนมาก
ทางทีมแพทย์ได้ผ่าตัดลำไส้ใหญ่ของผู้ป่วยทิ้งออกไปบางส่วน และผ่าตัดห้ามเลือดเพื่อยื้อชีวิตของผู้ป่วย เพราะผู้ป่วยอยู่ในสภาวะดีไอซี หรือสภาวะเลือดแข็งตัว ทำให้เป็นอุปสรรคในการรักษา แม้ทีมแพทย์จะให้เลือดกับผู้ป่วยมากเท่าไหร่ แต่ผู้ป่วยก็ไม่สามารถรับเลือดได้เลย แต่ในขณะนี้ผู้ป่วยชาวญี่ปุ่นมีอาการดีขึ้นแล้ว แม้ผู้ป่วยนั้นยังไม่ได้สติก็ตาม โดยในขณะนี้ยังต้องนอนรักษาตัวอยู่ในห้องฉุกเฉิน และต้องได้รับการดูแลจากทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่เป็นเด็กหญิงชาวจีน อายุ 10 ปี ซึ่งในขณะนี้ยังอยู่ในห้องผู้ป่วยฉุกเฉินที่มีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด หลังได้รับการผ่าตัดห้ามเลือดตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 06.00 น.เจ้าหน้าที่ชุกเก็บกู้วัตถุระเบิด หรืออีโอดี จะเข้าไปตรวจสอบและเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง จากนั้นในเวลา 10.00 น.พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.จะเดินทางไปที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายหน่วยงานเพื่อติดตามตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ