คสช.แถลงคุมสถานการณ์ได้ ไม่ประกาศภาวะฉุกเฉิน

วันที่ 17 สิงหาคม 58 พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ กรณี เกิดเหตุวางระเบิดที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ตรงศาลพระพรหมเอราวัณ จนทำให้มีประชาชนผู้บริสุทธิ์ เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ได้สั่งให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม เร่งติดตามสถานการณ์ความคืบหน้าและควบคุมความเรียบร้อย โดยพบผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง ผู้บาดเจ็บหลายราย ขณะนี้จนท.ควบคุมพื้นที่ไว้ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยผู้บาดเจ็บนำได้นำส่ง รพ. ในเขต กทม. จำนวน 11 แห่ง ขณะที่ ผู้เสียชีวิตจนท.กำลังตรวจสอบอัตลักษณ์ ว่าเป็นใคร สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เสียชีวิต ได้มอบให้ทางกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ประสาน ญาติพี่น้อง ผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต เพื่อแจ้งให้ญาติทราบ ทั้งนี้ รัฐบาลจะเร่งทำการสอบสวน หาผู้กระทำผิด มาลงโทษอย่างเต็มที่ และขอให้พี่น้องสื่อมวลชน ใช้ดุลพินิจ ในการนำเสนอข่าวและภาพในโลกโซเชียลมีเดีย เนื่องจากมีผู้ไม่หวังดี หวังขยายผลเหตุการณ์ทำให้ประเทศไทยเสียหายไปมากกว่าที่เป็นอยู่

ส่วนกรณีที่มีการแผยแพร่ว่า ทางรัฐบาลมีการประกาศว่า วันพรุ่งนี้ จะมีการปิดโรงเรียน สถานศึกษา สถาบันการเงิน ยัน ไม่เป็นความจริง ทั้งหมดยังปฏิบัติงานปกติ เจ้าหน้าที่เพียงปิดพื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์ไปถึงแยกอังรีดูนังจนถึงเที่ยงวันพรุ่งนี้เท่านั้น ขณะที่ภาครัฐขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ช่วยแจ้งเบาะแส ข้อมูลสำคัญ ไม่ว่า เเป็นสิ่งบอกเหตุ สิ่งผิดปกติได้ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 191 ขอพี่น้องประชาชน อย่าตื่นตระหนก เพราะเจ้าหน้าที่ ได้เข้าพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เป็นเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ยังไม่มีความจำเป็น ต้องออกคำสั่งสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ปิดสถานที่ราชการ ขอยืนยันว่า คำสั่งดังกล่าวไม่เป็นความจริง หลังจากนี้ไป ขอความร่วมมือให้ระมัดระวัง ในการแผยแพร่ข่าวสาร และขอให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการ เพราะเกรงว่า จะเกิดความตื่นตระหนกหลงเชื่อข่าวลือ และได้ข้อมูลที่ผิดพลาด จนเกิดความเข้าใจผิดได้