svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

จับสาวป่วยจิต โทรป่วน รพ.วันละ กว่า 200 ครั้ง

05 สิงหาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตาก - จับแล้วสาวป่วยเป็นโรคจิต โทรป่วน รพ.สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วันละกว่า 200 ครั้ง


เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม2558พ.ต.อ.เดชชาติ วัฒนพนม ผกก.สภ.เมืองตาก พร้อมด้วยเจ้าหน้าตำรวจชุดสืบสวน ควบคุมตัว น.ส.ภูริตา โชติธนาโชติ หรือแนน เป็นผู้ป่วยด้วยโรคทางจิต อายุ 26 ปี พร้อมด้วยนางประนอม ขำคม อายุ 64 ปี ผู้เป็นยาย อยู่บ้านเลขที่ 29/1 หมู่ที่ 3 ตำบลยกกระบัตร อำเภอสามเงา จังหวัดตาก หลังสืบทราบว่าเป็นผู้โทรศัพท์ก่อกวนเบอร์ฉุกเฉินซึ่งเป็นเบอร์ของทางราชการ ทางตำรวจภูธรจังหวัดตาก และของโรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สร้างความเสียหายให้แก่ 2 หน่วยงาน โดยได้แจ้งความดำเนินไว้กับพนักงานสอบสวน


โดยทางเจ้าหหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่ได้จดทะเบียนกับค่ายมือมือ ต่างๆ และเป็นเบอร์ที่โทรเข้ามาก่อกวน จนทราบว่าเป็นของค่าย AIS ระบบเติมเงิน จนสามารถติดตามเบอร์โทรของ น.ส.ภูริตา เจ้าหน้าจึงไปเชิญตัวมาจากบ้านพัก พร้อมด้วยนางประนอม ผู้เป็นยาย โดยมีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย 1 เครื่องเป็นหลักฐาน มาทำการสอบสวนที่สถานีตำรวจ โดยน.ส.ภูริตา มีอาการเซื่องซึม ผู้จาวกวนฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง


จากการสอบสวนนางประนอม ผู้เป็นยาย ให้การว่า น.ส.ภูริตา ป่วยเป็นโรคทางจิตมาตั้งแต่เกิด พ่อก็ตาย ส่วนแม่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด ทิ้งให้อยู่กับตายาย มาตั้งแต่เกิด มีอาการป่วยต้องเข้ารักษาโรงพยาบาลบ่อยครั้ง บางครั้งพูดจารู้เรื่อง บางครั้งก็พูดไม่รู้เรื่อง นางประนอม ได้ยกมือไหว้ขอโทษทุดคนที่หลานสาว ได้กระทำความผิดต่อสังคม เพราะมีอาการป่วยทางจิต


พ.ต.อ.เดชชาติ เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามกฎหมายทุกขั้นตอน ผู้กระทำความผิดเป็นผู้ป่วยทางจิต โดยมีหลักฐานเป็นผู้ป่วยของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งทางกฎหมายไม่สามารถเอาผิดผู้ป่วยได้ ทางเจ้าหน้าสอบสวนได้เชิญผู้เสียหายทางโรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มาร่วมตรวจสอบ และชี้แจงข้อกฎหมาย ซึ่งทางผู้เสียหายก็ไม่ติดใจเอาความ แต่ขออย่าได้กระทำผิดอีกเป็นครั้งที่2 จะให้เจ้าหน้าตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายไม่ละเว้น จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวกลับบ้าน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.ภูริตา ได้โทรศัพท์เข้ามาก่อกวนโรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน ฯ วันละกว่า 200 ครั้ง สร้างความปั่นป่วนสับสนให้เจ้าหน้าที่พยาบาล เนื่องจากผู้ป่วยจำนวนมากที่รอรับการรักษาต้องได้รับการบริการล่าช้า โดยเฉพาะผู้ป่วยอาการหนักถึงกับเสียชีวิต เพราะมีการโทรป่วนติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้นำรถฉุกเฉินออกไปรับผู้ป่วยช้าเกินไป ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ได้รับเบอร์โทรเดียวกันนี้วันละ นับ 100 ครั้ง สร้างความสับสนได้น้อย หลายครั้งที่เจ้าหน้าทุกหลอกไปออกปฏิบัติงานโดยไม่เป็นความจริง


logoline