รวบยกแก๊งลักหัวรถไถนา อ้างซื้อมาโดยสุจริตใจ

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 5 สิงหาคม 2558พ.ต.อ.ประจัญ ปัญญาแก้ว ผกก.สภ.เมืองพะเยา ว่าที่ ร.ต.สมัย คำชมพู นายอำเภอเมืองพะเยา พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและฝ่ายปกครอง แถลงข่าวจับกุมนายหลั่น อินต๊ะสาร อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 ม.1 ต.บ้านถ้ำ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ผู้ต้องหารับของโจร นายยงยุทธ ค้าสม อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 403 ม.3 ต.แม่นาเรือ อ.เมือง จ.พะเยา ผู้ต้องหาลักของโจร และนายมนตรี เรือนสอน อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 ม.7 ต.บ้านปิน อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ผู้ต้องหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ พร้อมด้วยของกลางเครื่องยนต์ติดรถไถนาเดินตาม ยี่ห้อคูโบต้า จำนวน 2 เครื่อง

นายมนตรี ผู้ต้องหาลักทรัพย์ฯ สารภาพว่า ตนได้ขโมยหัวรถไถ 2 ตัว ซึ่งชาวบ้านได้นำมาใช้เป็นเครื่องสูบน้ำในพื้นที่บ้านร่องขุย ต.จำป่าหวาย อ.เมือง จ.พะเยา จากนั้น จึงนำไปขายให้นายมนตรี เรือนสอน ในราคา 2 เครื่อง 35,00บาท จากนั้นนายมนตรี ก็นำไปขายต่อให้นายหลั่นอินต๊ะสารในราคาเครื่องละ 4.500 บาท จากนั้นนายหลั่นก็ขายให้นายยงยุทธในราคา 6,500บาท จนกระทั่งถูกจับกุมในที่สุด

นายหลั่น ผู้ต้องหารับซื้อของโจรฯ กล่าวว่า ตนยอมรับว่าซื้อเครื่องหัวรถไถจริง แต่ซื้อโดยบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่การรับซื้อของโจร ตามที่ทางตำรวจแจ้งข้อหาและจะต่อสู้ในชั้นศาลต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.ประจัญ ปัญญาแก้ว ผกก.สภ.เมืองพะเยา กล่าวเตือนเกษตรกรว่าอย่าได้ทิ้งหัวรถไถ เครื่องสูบน้ำ หรือทรัพย์สินใดๆไว้ในที่โล่งแจ้งหรือกลางทุ่งนา ไร่ เด็ดขาด เพราะอุปกรณ์ทางการเกษตรพวกนี้สามารถดัดแปลงเอาไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย จึงเป็นที่ต้องการของพวกขโมยและพวกรับซื้อของเก่าอย่างมาก เนื่องจากขายง่ายและราคาดี

ในเบื้องต้น ได้ตั้งข้อหาว่าลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้วแต่สองคนขึ้นไป ที่เป็นของผู้มีอาชีพเกษตรกรรม ที่เป็นเครื่องกลหรือเครื่องจักรที่ผู้มีอาชีพกสิกรรมมีไว้เพื่อประกอบอาชีพกสิกรรม โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร