รปภ.ชักปืนจี้ผู้โดยสาร บนรถเมล์

เหตุเกิดที่บริเวณหน้าห้างโฮมโปร ถนนบางนา-ตราด หลักกิโลเมตรที่ 12 ขาเข้านครบาล ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยนางสาว พิณทิพย์ แพทย์เจริญ อายุ 21 ปี ผู้เสียหายซึ่งเป็นนักศึกษา ได้ให้การว่า ในขณะที่เธอนั่งรถโดยสารคันดังกล่าวมา ซึ่งภายในรถมีผู้โดยสารอยู่ทั้งหมด 4 คนรวมทั้งคนร้าย
ขณะรถวิ่งมาถึงที่เกิดเหตุ ชายคนดังกล่าวได้แสดงตัวเป็นคนร้ายได้ชักปืนไม่ทราบขนาดแบบแม็กกาซีนสีดำออกมาขู่ให้ตนและผู้โดยสารคนอื่น ๆ ส่งทรัพย์สินให้ ก่อนที่คนร้ายยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด เพื่อเป็นการเบิกทางก่อนที่จะวิ่งลงจากรถหลบหนีไป โดยนางสาวพิณทิพย์ ได้แจ้งไอดีของเครื่องโทรศัพท์มือถือของตนเองที่คนร้ายได้ไปให้ตำรวจทราบ ตำรวจจึงได้ติดตามคนร้ายด้วยสัญญาณจีพีเอสของโทรศัพท์เครื่องดังกล่าว จึงได้ทราบว่า คนร้ายได้นั่งแท็กซี่หลบหนีขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษก ไปลงที่ถนนศรีนครินทร์ มุ่งหน้าไปทางสามแยกการไฟฟ้า ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.เมืองสมุทรปราการ จึงได้แจ้งวิทยุประสานสกัดจับกุม แต่คนร้ายก็หลุดรอดมือตำรวจไปได้อีก เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลของรถแท็กซี่คันดังกล่าวว่า เป็นสีอะไรยี่ห้ออะไรและทะเบียนอะไร
จากนั้่นคนร้ายได้หลบหนีออกไปทางถนนสุขุมวิท ผ่านหน้าโรงเรียนนายเรือมุ่งหน้าทางช้างสามเศียร จึงได้ทำการปิดการจราจรในช่วงสามแยกช้างสามเศียร เมื่อคนร้ายพบเห็นตำรวจจึงได้ลงจากรถและเดินหลบหนีไปทางถนนรถรางรถไฟสายเก่า มุ่งหน้าไปทางใต้สะพานทางด่วน ตำรวจสังเกตเห็นพิรุธ จึงส่งสัญญาณให้หยุด เพื่อตรวจค้น คนร้ายเห็นท่าไม่ดี จึงได้ชักอาวุธปืนยิงใส่กลุ่มตำรวจ 3 นัด กระสุนยิงถูกนายบันเทิง นาจันทอง อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือตำรวจบาดเจ็บ ส่วนคนร้าย ตำรวจสามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ พร้อมด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก ในรังเพลิงไม่มีกระสุน ทราบชื่อนายบุญมา กรรมทรัพย์ อายุ 32 ปี ชาวอ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี
จากการสอบสวน นายบุญมาให้การว่า ตนทำงานเป็น รปภ. ของ บริษัทกัสสปอร์ท ถูกส่งมาประจำการอยู่ที่บริษัทไทยซัมมิท ซึ่งตั้งอยู่ในย่านบางแก้ว ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร โดยก่อนเกิดเหตุ หลังจากที่ตนออกเวรมาในช่วงเย็น จึงได้นั่งรถประจำทางไปลงในย่านบางเสาธง เพื่อตระเวนหาเหยื่อ แต่ขาไปไม่มีโอกาสก่อเหตุ เนื่องจากมีผู้โดยสารนั่งอยู่ในรถหลายคน จึงได้นั่งรถประจำทางคันดังกล่าวกลับมา ซึ่งภายในรถมีผู้โดยสารอยู่ประมาณ 3 คน เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ตนจึงได้ตัดสินใจลงมือก่อเหตุ โดยใช้อาวุธปืนที่ซื้อต่อมาจากพรรคพวก มาในราคา 7 พันบาท ออกมาจี้ชิงทรัพย์ของผู้เสียหายทั้งสอง ก่อนลงจากรถได้ยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัดเพื่อเบิกทางหลบหนี และขึ้นแท็กซี่หลบหนีมาจนกระทั่งมาถูกจับกุม ซึ่งที่ตนทำไป เพราะต้องการหาเงินกลับบ้านที่ต่างจังหวัด และจะไปบวชให้พ่อ
เบื้องต้น ตำรวจยังไม่ปักใช้เชื่อในคำให้การของนายบุญมามากนัก เนื่องจากการตรวจสอบประวัติแล้ว พบว่าเพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำสมุทรปราการได้ประมาณปีเศษ ในคดีลักทรัพย์ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ต่อสู้ขัดขืนเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ และพยายามฆ่าผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ชิงทรัพย์ผู้อื่นโดยมีและใช้อาวุธปืนในการข่มขู่ พกพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป