บริษัทต่างชาติค้านขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ในเมียนมาร์

ระหว่างการประชุมของสมาคมผู้ประกอบการเครื่องนุ่งห่มเมียนมาร์ หรือ MGEA ในนครย่างกุ้งที่ผ่านมา บริษัทต่างชาติกว่า 100 แห่งแสดงการคัดค้านรัฐบาลที่ออกข้อกำหนดเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ให้ค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ราว ๆ 110 บาทต่อวัน สำหรับแรงงานทุกคนในประเทศ
นาย อู มยิน โซ ประธาน MGEA บอกว่า เหตุผลหนึ่งก็คือ บริษัทต่าง ๆ กำลังประสบปัญหาเรื่องผลประโยชน์ ขณะที่กำลังพยายามจ่ายค่าแรงเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว หากความพยายามไม่เป็นผลและผลลัพธ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง พวกเขาจะปิดโครงการต่าง ๆ ในเมียนมาร์ และหันไปลงทุนในประเทศอื่น ๆ
อุตสาหกรรมเกษตรและการขนส่งทางเรือในเมียนมาร์ ก็จัดการประชุมเมื่อไม่นานมานี้ โดยแสดงการคัดค้ามาตรฐานค่าแรงขั้นต่ำเช่นเดียวกัน
แรงงานราคาถูกเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้เมียนมาร์มีการลงทุนจากต่างชาติเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ โดยยกระดับอัตรการจ้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ
สถิติล่าสุดระบุว่า การลงทุนจากต่างชาติที่เพิ่มขึ้นนั้น สร้างงานหลายล้านอันตราในประเทศในช่วย 4 ปีที่ผ่านมา แม้บริษัทต่างชาติจะร้องเรียนเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ไฟฟ้า และ การขนส่ง ที่ยังไม่พัฒนาก็ตาม ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการไม่สามารถผลิตสินค้าได้ตามเป้า และส่งสินค้าได้ตามเวลาที่กำหนด
ขณะนี้ บริษัทต่าง ๆ ที่เข้าร่วมการประชุมของ MGEA เรียกร้องให้รัฐบาลให้เงินอุดหนุนค่าแรงขั้นต่ำที่กำหนด โดยเตือนว่าหากโรงงานปิดตัวลงจำนวนมาก แรงงานหลายพันคนจะตกงาน
ด้วยเหตุที่เมียนมาร์มีอัตราเงินเฟ้อสูง แรงงานจึงเรียกร้องให้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเพื่อให้มีรายได้พอยังชีพ และคาดหวังให้กำหนดค่าแรงขึ้นต่ำไว้ที่ 4 เหรียญสหรัฐ หรือราว 133 บาทต่อวัน
การตัดสินใจของรัฐบาลที่กำหนดให้ค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ราว 110 บาทต่อวันนั้น มีขึ้นหลังได้ข้อสรุปจากการเจรจา 1 ปี ระหว่างรัฐบาล นายจ้าง และตัวแทนแรงงาน