ช้างศึกดวลพม่า ล่าแชมป์บอลซีเกมส์สมัยที่15

การแข่งขันฟุตบอลในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่ประเทศสิงคโปร์ วันที่ 15 มิถุนายนนี้ รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ช้างศึก ทีมชาติไทย แชมป์เก่า 14 สมัย ที่รอบรองชนะเลิศ ชนะ อินโดนีเซีย 5-0 พบ หม่อง พม่า ที่ชนะ เวียดนาม 2-1 เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 3 และช่อง 7 ส่วนคู่ชิงอันดับ 3 อินโดนีเซีย พบ เวียดนาม
ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน มีการแถลงข่าวความพร้อมของทั้ง 2 ทีม ที่โรงแรมรามาดา โดย โค้ชโชค โชคทวี พรหมรัตน์ ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ กล่าวว่า นัดนี้จะเล่นอย่างรัดกุมทั้งเกมรุกและรับ ซึ่งสิ่งที่ต้องระวังคือการสวนกลับของพม่า
พม่ามีเกมสวนกลับที่ดี ดังนั้นเกมรับต้องมีสมาธิตลอด ส่วนเกมรุกเราจะเล่นเหมือนเดิมคือค่อยๆ หาช่องเจาะเข้าทำ หากมีโอกาสก็ต้องจบสกอร์ให้ได้ เชื่อว่า พม่า จะมาเล่นเกมรับแน่นอน แต่มั่นใจว่าลูกทีมจะสามารถเอาชนะได้ใน 90 นาที ส่วนสภาพความพร้อมของทีมมี อาทิตย์ ดาวสว่าง ที่ต้องเช็กความฟิตอีกครั้ง แต่คิดว่าไม่น่ามีปัญหา ดังนั้นนัดนี้จะส่งชุดใหญ่ลงเล่นแน่นอน
สำหรับ 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนามของไทย ในระบบ 4-3-3 จะเป็นชุดเดียวกับที่ชนะ อินโดนีเซีย ประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู ชนินทร์ แซ่เอียะ แบ็กขวา นฤบดินทร์ วีรวัฒน์โนดม แบ็กซ้าย พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กับอาทิตย์ ดาวสว่าง กองกลาง สารัช อยู่เย็น, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ชนาธิป สรงกระสินธ์ ริมเส้นขวา นูรูล ศรียานเก็ม ริมเส้นซ้าย รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก และกองหน้า ชนานันท์ ป้อมบุบผา
ด้าน คลี ลวิน เฮดโค้ชพม่า เผยว่า สมัยเป็นผู้เล่นตนเองเคยแพ้ไทย ในรอบชิงชนะเลิศ ซีเกมส์ ครั้งที่ 17 เมื่อปี 1993 สกอร์ 3-4 ซึ่งหมายมั่นปั้นมือว่าจะล้างแค้นให้ได้ ส่วนไทยถือเป็นทีมที่ดีแต่นักเตะของตนเองไม่ได้รู้สึกกลัวหรือต้องประกบใครเป็นพิเศษ ขณะที่ความพร้อมของทีมจะหมดสิทธิ์ใช้งาน อ่อง เย วิน ที่บาดเจ็บขาหักลงเล่นไม่ได้แน่นอน ทว่าตัวทีเด็ดอย่าง เนย์ ลิน ตัน กองหน้ากัปตันทีมที่ยิงประตูชัยในรอบรอง จะยืนล่าตาข่ายเหมือนเดิม
ขณะเดียวกันมีรายงานว่าบัตรเข้าชมได้ถูกจำหน่ายหมดภายใน 6 ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้เกมนี้มีแฟนบอลทั้ง 2 ชาติเข้าชมเกมเต็มความจุแน่นอน
สำหรับเกมนี้ ไทยจะสวมชุดสีน้ำเงินลงสนาม ส่วนสถิติที่ทั้ง 2 ทีมเคยพบกันในศึกซีเกมส์ ปรากฏว่าเจอกันทั้งหมด 22 ครั้ง ไทย ชนะ 13 ครั้ง เสมอ 4 ครั้ง แพ้ 5 ครั้ง ยิงได้ 50 ประตู เสีย 27 ประตู ขณะที่นับเฉพาะเจอกันรอบชิงชนะเลิศ จำนวน 4 ครั้ง ไทย ชนะ 2 เสมอ 1 (แชมป์ร่วม) แพ้ 1 ซึ่งรอบชิง ครั้งล่าสุดคือซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่ จ.นครราชสีมา ไทย ชนะ 2-0 ส่วนการเจอกันครั้งล่าสุดคือซีเกมส์ ครั้งที่ 27 รอบแรกเสมอกัน 1-1หากไทยคว้าเหรีญทองครั้งนี้จะได้รับเงินอัดฉีดจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย 10 ล้านบาท รวมกับเงินอัดฉีดจากการชนะ มาเลเซีย 1-0 และชนะ อินโดนีเซีย 5-0 นัดละ 1 ล้านบาท รวมเป็น 12 ล้านบาท ขณะเดียวกันกองทุนพัฒนากีฬาชาติ จะมอบเงินให้เหรียญทองละ 2 แสนบาทต่อคน (20 คน รวมเป็น 4 ล้านบาท) ทำให้เบ็ดเสร็จรับเงินรวมทั้งสิ้น 16 ล้านบาท