ถิ่น ลิน ตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศเมียนมาร์ ระบุในที่ประชุมว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย ว่า การชี้นิ้วสั่งให้แก้ปัญหา จะยิ่งทำให้การแก้ปัญหานั้นไม่ไปถึงไหน โดยแต่ละประเทศก็ล้วนแล้วแต่มีปัญหาภายใน พร้อมมีขอบเขตการแก้ปัญหาของตน
นอกจากนี้ เมียนมาร์ ตำหนิสหประชาชาติ หรือ UN ที่ระบุว่า เมียนมาร์เป็นต้นตอของการอพยพของชาวมุสลิมโรฮิงญา และตอนนี้กำลังถูกโดดเดี่ยวจากนานาชาติจากปัญหาดังกล่าว ซึ่งเมียนมาร์ได้แสดงความไม่พอใจที่ตกเป็นเป้าวิจารณ์เพียงฝ่ายเดียวเรื่องวิกฤติผู้อพยพ
โวล์กเกอร์ เติร์ก ตัวแทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR กล่าวในการเปิดการประชุม โดยเรียกร้องให้เมียนมาร์แก้ไขปัญหาการอพยพของชาวโรฮิงญา ซึ่งเมียนมาร์ในฐานะต้นตอของปัญหา ควรจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนทุกคน โดยเป้าหมายสูงสุดคือ การมอบสิทธิความเป็นพลเมืองให้พวกเขา
แต่นายถิ่น ลิน บอกสำหรับเรื่องปัญหาผู้อพยพทางเรือผิดกฎหมาย ไม่สามารถกล่าวโทษว่าเกิดจากเมียนมาร์เพียงฝ่ายเดียวได้ และคำพูดของโวล์กเกอร์เป็นการทำให้เป็นเรื่องการเมือง ทั้งที่บางเรื่องเป็นกิจการภายใน
ขณะที่เหล่าผู้สังเกตการณ์ ระบุว่า ยังไม่แน่ชัดว่า การหารือในวันนี้ ซึ่งบางประเทศไม่ได้ส่งตัวแทนระดับสูงเข้าร่วมนั้น จะสามารถบรรลุข้อตกลง กับวิธีการแก้ปัญหาและจัดการกับประเด็นที่ยืดเยื้อมานานหลายปีนี้ได้หรือไม่
ด้านรัฐมนตรีมหาดไทยมาเลเซีย อาห์หมัด ซาฮิด ฮามิดี ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนนครนิวยอร์กของสหรัฐฯนาน 6 วัน เปิดเผยว่า ในระหว่างที่เขาเข้าพบกับเจห์ จอห์นสัน รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงภายในของสหรัฐ มีการหารือถึงประเด็นที่สหรัฐแสดงความพร้อมส่งตำรวจจากหน่วยนิติเวชไปช่วยตรวจสอบที่หลุมศพเหยื่อค้ามนุษย์ในรัฐปะลิส
นอกจากนี้นายซาฮิดได้ไปเยี่ยมชมหน่วยยามฝั่งสหรัฐ และได้รับข้อเสนอจากสหรัฐที่จะจัดการฝึกซ้อมร่วมกับตำรวจมาเลเซียแและสำนักงานรักษากฎหมายทางทะเลมาเลเซียในเรื่องการปราบปรามแก๊งค้ามนุษย์ที่ลักลอบอพยพคนทางทะเล