คลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมในหลายพื้นที่ของอินเดีย ได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วนับพันราย ในช่วงไม่ถึง 1 สัปดาห์ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือรัฐอันตรประเทศ ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่อุณหภูมิที่เฉียด 50 องศาเซลเซียสในกรุงนิวเดลี ยังทำให้ผิวถนนหลอมละลายอีกด้วย
เหยื่อคลื่นความร้อนส่วนใหญ่เป็นคนที่ยากจน, ขอทานและคนเร่ร่อน รวมทั้งคนงานก่อสร้างที่ทำงานกลางแดดจ้าอยู่ตามไซท์งาน และมีประชากรเพียง 1 ใน 3 จากจำนวนทั้งหมด 1,200 ล้านคน ที่เข้าถึงไฟฟ้า ย่อมหมายความว่า มีประชาชนหลายล้านคนที่ต้องทนกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด โดยไม่มีหนทางที่จะบรรเทาลงได้ หรือแม้แต่คนที่เข้าถึงไฟฟ้า ก็อาจเผชิญปัญหาไฟตก เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศ ส่วนคนที่ไม่มีหนทางที่สร้างความเย็นในบ้าน ก็จะพากันไปหลบร้อนตามร้านค้าหรือศูนย์การค้า
หนังสือพิมพ์ฮินดูสถาน ไทม์ส รายงานว่า กรุงนิวเดลีเผชิญอุณหภูมิสูงถึง 45.5 องศาเซลเซียส เมื่อวันจันทร์ สูงที่สุดในรอบ 2 ปี และสูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูร้อนถึง 5 องศาเซลเซียส และได้ยังตีพิมพ์ภาพหน้าหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นถนนสายหลักหลอมละลาย โดยเฉพาะผิวถนนที่ทาสีขาวดำเป็นทางม้าลาย ได้กลายสภาพอย่างเห็นได้ชัด
รัฐบาลได้จัดรายการให้การศึกษาแก่ประชาชนทางโทรทัศน์ รวมถึงสื่ออื่นๆ เพื่อเตือนไม่ให้พวกเขาออกนอกบ้านโดยไม่สวมหมวก, ให้ดื่มน้ำและสอนวิธีการอื่นๆ เพื่อบรรเทาความร้อน พร้อมกับเรียกร้องให้เอ็นจีโอ และองค์กรในสังกัดรัฐบาล เปิดแคมป์บริการน้ำดื่มสำหรับประชาชนทั่วไป