svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

หนุ่มคูเวตเล่นบันจี้จัมพ์ ข้อต่อยึดข้อเท้าหลุด ร่วงกระแทกพื้น เสียชีวิต

28 พฤษภาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หนุ่มชาวคูเวต วัย 25 ปี เล่นบันจี้จัมพ์ที่ภูเก็ต เกิดข้อต่อที่ใช้ยึดระหว่างสายยืดกับข้อเท้าผู้เล่นเกิดหลุด ทำให้ลอยตกลงมาที่พื้นบาดเจ็บสาหัส ก่อนส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ผลการเอ็กซ์เรย์ พบคอและซี่โครงขวาหัก




เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 27 พ.ค. 2558 พ.ต.ต.ธีระศักดิ์ บุญแสง พนักงานสอบสวน สภ.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลป่าตองว่า มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตกจากเครื่องเล่นบันจี้จัมพ์บาดเจ็บสาหัส โดยมีพลเมืองดีนำส่งและเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยขอให้มาร่วมชันสูตรศพ จากนั้นรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผกก.สภ.กะทู้ พ.ต.ท.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสน์ รอง.ผกก.ป.สภ.กะทู้ นำกำลังสายตรวจ-ชุดสืบสวนและมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตรุดไปตรวจสอบข้อเท็จจริง



ภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลพบร่างชายชาวต่างชาตินอนอยู่บนเตียงคนไข้ สภาพไม่สวมเสื้อและนุ่งเพียงกางเกงขาสั้นสีดำ ชื่อ นาย ABDULLAH ADEL KADHMBAHMAN อายุ 25 ปี สัญชาติคูเวต โดยแพทย์ได้นำร่างเข้าเอ็กซ์เรย์ เพื่อตรวจสอบบาดแผลภายในร่างกาย พบคอหักและซี่โครงขวาหัก



สอบถามเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่เวรเปลประจำหน้าห้องฉุกเฉินทราบว่าได้มีรถกระบะขับขึ้นมาจอดบริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน จากนั้นได้บอกกับเจ้าหน้าที่เวรเปลขอรถเข็นคนไข้รับนักท่องเที่ยวต่างชาติภายในรถมีอาการแน่นหน้าอกและสลบไป แต่สุดท้ายคนขับรถยอมบอกกับเจ้าหน้าที่ว่านักท่องเที่ยวตกจากเครื่องเล่นบันจี้จัมพ์บาดเจ็บ



หลังจากได้ข้อมูล พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผกก.สภ.กะทู้ ได้นำกำลังสายตรวจและชุดสืบสวนไปตรวจสอบบริเวณโดยรอบของเครื่องเล่นบันจี้จัมพ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นทุ่งหญ้าและสระน้ำขนาดใหญ่ โดยมีพนักงานที่ดูแลเครื่องบันจี้จัมพ์นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบจุดที่ นาย ABDULLAH ADELตก โดยไม่อนุญาตให้นักข่าวเข้าไปบันทึกภาพภายใน



พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ กล่าวหลังตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุว่า จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเบื้องต้นทราบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติดังกล่าวได้เล่นบันจี้จัมพ์แล้วข้อต่อที่ใช้ยึดระหว่างสายยืดกับข้อเท้าผู้เล่นเกิดหลุด ขณะที่ร่างของผู้เล่นกำลังลอยอยู่เหนือทุ่งนา ทำให้ร่างตกกระแทกพื้นดินบาดเจ็บสาหัสและมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายเกิดจากอุบัติเหตุหรือความประมาทจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

logoline