พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่าในกรณีที่มาของนายกรัฐมนตรีนั้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ท่านมีคำตอบในใจของท่านทุกเรื่อง เพราะผู้บริหารประเทศต้องมองไกลไปข้างหน้าเพื่อประเทศชาติในทุกประเด็น แต่ท่านไม่จำเป็นต้องตอบทุกเรื่อง และโดยตำแหน่งในปัจจุบันถือว่าท่านเป็นผู้มีส่วนได้เสียกับประเด็นนี้โดยตรง จึงคงไม่เหมาะสมหากท่านจะแสดงความเห็นไปทางใดทางหนึ่ง เป็นเรื่องที่ผู้ร่วมร่างและแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเป็นผู้พิจารณาตามความจำเป็นแก่บ้านเมือง
กรณีที่มาของนายก ที่ไม่จำเป็นต้องมาจากการเลือกตั้ง โดยส่วนตัว ผมเข้าใจว่าคณะกรรมาธิการยกร่างน่าจะมีเป้าหมายเพื่อเป็นเครื่องมือในภาวะที่การเมืองถึงทางตัน เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เกิดการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านไม่อาจบริหารประเทศได้ เหมือนเช่นที่เคยเกิดขึ้น จนสถานการณ์บ้านเมืองไม่สามารถไปต่อได้ ทหารจึงต้องเข้ามารับผิดชอบยุติความขัดแย้งและความรุนแรงนั้น หากรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้นายกฯไม่ต้องมาจากการเลือกตั้ง นักการเมืองทั้งสองฟากอาจจะเชิญคนนอกที่เป็นที่ยอมรับจากทั้งสองส่วน มาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีในภาวะนั้นแทน ซึ่งประชาชนก็คงต้องการเห็นบ้านเมืองมีทางออก และมีทางเลือกมากขึ้นในการแก้ไขปัญหาที่นักการเมืองสร้างไว้
ซึ่งเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญมีไว้เพื่อแก้ไขปัญหาที่เคยเกิดขึ้นกับการเมืองไทยในอดีต หากรัฐธรรมนูญยังมีเนื้อหาแบบเดิม ใช้เครื่องมือเดิมๆ ประเทศก็จะไม่หลุดออกจากวงจรปัญหาเก่าๆ และกองทัพก็ไม่อยากถูกกดดันจากสังคมให้ต้องออกมาปฏิบัติหน้าที่ในลักษณะนี้อีก เพราะแม้ทหารจะทำด้วยความตั้งใจดี ต้องการรักษาบ้านเมือง ให้ปกติสุข แต่ก็เสี่ยงที่จะเกิดความไม่เข้าใจจากนานาประเทศได้