svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

แกะรอยสมบัติวัดบ้านไร่ หนี้งอกร้อยล้านกลางวงประชุม

26 พฤษภาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เป็นเรื่องใหญ่ที่ยังอยู่ในกระแสความสนใจของประชาชนสำหรับประเด็นการตรวจสอบ "เรื่องทรัพย์สิน" วัดบ้านไร่ หลังการจากไปของ "พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ" ล่าสุดในการตรวจสอบทรัพย์สินของวัดบ้านไร่เริ่มขึ้นอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม 2558 บรรยากาศเป็นไปอย่างเคร่งเครียด มี "พระราชสีมาภรณ์" รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน พร้อมด้วยคณะกรรมการวัด และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

การประชุมในครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเรียกน้ำจิ้ม โดยคณะกรรมการมีวาระแค่วางแผนกำหนดกรอบระยะเวลาการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินทั้งหมดเท่านั้น
"บัญชายุทธ นาคมุจลินท์" ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครราชสีมา หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ระบุว่า การตรวจสอบครั้งนี้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดจะตรวจสอบเชิงลึกทั้งทรัพย์สิน และหนี้สินของวัด โดยวางแผนขั้นตอนการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของวัดบ้านไร่ด้วยการกำหนดกรอบระยะเวลาในการตรวจสอบร่วมกับคณะกรรมการวัดบ้านไร่ภายใน 30 วัน เบื้องต้น พบว่า ทรัพย์สินของวัดบ้านไร่มีจำนวนมาก คงต้องใช้เวลาตรวจสอบรวบรวมนานพอสมควร เมื่อตรวจสอบเสร็จสิ้นก็จะแจ้งให้สาธารณชนรับทราบ
ขณะเดียวกันระหว่างการประชุมวางแผนของคณะกรรมการวัดกลับเกิดเรื่องไม่คาดคิดเมื่อ "เกรียงไกร จารุทวี" อดีตรองประธานกรรมการวัดบ้านไร่ ผู้ที่เคยได้รับมอบหมายให้ดูแลผลประโยชน์การก่อสร้าง วิหารเทพวิทยาคม ได้นำ "สมุดปกเหลือง" มาแจกคณะกรรมการและสื่อมวลชน ภายใต้ชื่อ "ชุดความจริงกรณีสร้างวิหารเทพวิทยาคม สืบสานพระพุทธศาสนาตามปณิธานหลวงพ่อคูณ จากนายเกรียงไกร จารุทวี อดีตรองประธานกรรมการวัดบ้านไร่ 25 พฤษภาคม 2558"
ทั้งนี้ ใจความของสมุดปกเหลืองระบุถึง "การรับผิดชอบการบริหารจัดการ และดำเนินงานวิหารเทพวิทยาคม" พร้อมกับแจงรายละเอียดถึงความเป็นมาของตัวเองและโครงการทั้งหมด
ข้อมูลที่น่าสนใจ คือ ในหน้าที่ 3 ของสมุดปกเหลืองชี้แจงถึงเรื่อง "สถานะบัญชีทรัพย์สิน / บัญชีรายรับ-รายจ่าย / บัญชีเงินฝาก ของวิหารเทพวิทยาคม" โดยระบุถึงรายละเอียดการก่อสร้าง ทั้งรายได้รายจ่ายดังนี้
งบประมาณการก่อสร้างจำนวน 355,000,000 บาท
หนี้ค้างชำระ ณ 20 ก.พ. 58 จำนวน 4,921,162 บาท
เกรียงไกร สำรองจ่ายสะสมถึง 20 มี.ค. 58 จำนวน 95,445,215 บาท
เกรียงไกร สำรองจ่าย 21 มี.ค.-20 เม.ย.58 จำนวน 690,000 บาท
เกรียงไกรได้รับชำระคืน 21 มี.ค.-20 เม.ย.58 จำนวน 79,000 บาท
ยอดหนี้ คงเหลือ 100,285,536 บาท
นอกจากนี้ ในสมุดเหลืองหน้าที่ 4 ข้อที่ 5 นายเกรียงไกรได้ชี้แจงถึงที่มาที่ไปของจำนวนเงินที่สำรองจ่ายให้วัดบ้านไร่ พร้อมแก้ข่าวกรณีมีข่าว "หลวงพ่อคูณเป็นหนี้กรรมการวัดบ้านไร่บางคนเกือบร้อยล้านบาท" ว่า
"ก่อนอื่นต้องขอยืนยันเบื้องต้น หลวงพ่อคูณไม่เคยเป็นหนี้ แต่ในฐานะที่ได้รับความไว้วางใจจากหลวงพ่อคูณให้รับผิดชอบสร้างวิหารเทพวิทยาคม และมีความตั้งใจที่จะสืบสานพุทธศาสนาตามเจตนารมณ์หลวงพ่อคูณ จึงทุ่มเทผลักดันสร้างวิหารเทพวิทยาคมอย่างเต็มที่ ด้วยกำลังศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่อคูณ และคำมั่นสัญญาที่ให้กับหลวงพ่อคูณ ทำให้ยินดีใช้เงินส่วนตัวและใช้ความสัมพันธ์อันดีในการกู้ยืมจากกัลยาณมิตร มาทดรองจ่ายในช่วงระหว่างที่ก่อสร้างเริ่มต้นเดินหน้าไปแล้ว แต่เกิดการขาดแคลนกระแสเงินสด โดยไม่เคยคิดถึงสถานะความเป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ โดยมีมติที่ประชุมคณะกรรมการวัดบ้านไร่ ครั้งที่ 4/2556 เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2556 ได้อนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษร"
เกี่ยวกับยอด "สถานะบัญชีทรัพย์สินรายรับ-รายจ่าย พร้อมบัญชีเงินฝากการสร้าง "วิหารเทพวิทยาคม" ในสมุดปกเหลืองที่นายเกรียงไกรนำมาแจกต่อกรรมการวัดและสื่อมวลชนนั้น หากนำข้อมูลดังกล่าวไปเปรียบเทียบกับข้อมูล "สถานะบัญชีทรัพย์สินรายรับ-รายจ่ายในการประชุมคณะกรรมการวัดบ้านไร่วันที่ 7 พฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมาจะพบข้อมูลที่ไม่ตรงกัน โดยเฉพาะในส่วนของค่าก่อสร้างวิหาร โดยยอดบัญชีการประชุมวันที่ 7 พฤษภาคม มียอดรวมอยู่ที่ 385,537,202.49 บาท ขณะเดียวกันในส่วนของหนี้สินที่นายเกรียงไกรสำรองจ่ายระบุไว้ในวันที่ 7 พฤษภาคม มียอดรวม 95,445,215.45 บาท
แต่ยอดบัญชีใน "สมุดหน้าเหลือง" ที่นายเกรียงไกรนำมาแจกคณะกรรมการวัด และสื่อมวลชนในวันที่ 25 พฤษภาคม กลับระบุค่าก่อสร้างวิหารไว้ที่ 355,000,000 บาท ส่วนหนี้สินที่เกรียงไกรสำรองจ่ายพบว่าสูงถึง 100,285,536 บาท
กรรมการวัดท่านหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อนำข้อมูลในสมุดปกหลืองกับข้อมูลสถานะบัญชีทรัพย์สินรายรับ-รายจ่ายในวันที่ 7 พฤษภาคม มาเทียบกับสมุดปกเหลืองของนายเกรียงไกรจะพบว่าไม่ตรงกัน โดยในส่วนของค่าก่อสร้างวิหาร และยอดเงินสำรองจ่ายมีตัวเลขต่างกันหลายสิบล้านบาท
"เป็นเรื่องที่กรรมการวัดจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะการแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายการสร้างวิหารในวันที่ 7 พฤษภาคม นายเกรียงไกรก็เป็นผู้ชี้แจงให้กรรมการวัดรับทราบ แต่พอมาวันนี้นายเกรียงไกรนำสมุดปกเหลืองมาแจกให้คณะกรรมการวัดและสื่อมวลชนกลับพบว่า ตัวเลขไม่ตรงกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบในเชิงลึกอย่างละเอียดว่ามีข้อผิดพลาดในส่วนใด ทำไมตัวเลขถึงได้แตกต่างกันมากขนาดนี้ ทำไมวัดเป็นหนี้กว่า 100 ล้าน แต่ทุกอย่างเราต้องยึดตามบัญชีหลักฐานที่ทางวัดมีอยู่ไว้ก่อน"
สร้างวิหารเทพวิทยาคมติดหนี้ร้อยล้าน
โครงการพัฒนาวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ แห่งวัดบ้านไร่ หรือเรียกอย่างเป็นทางการว่า อุทยานวัดบ้านไร่ ได้ดำเนินการก่อสร้างวิหารเทพวิทยาคม หรือ วิหารปริสุทปัญญา เป็นวิหารธรรมแห่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่บอกเล่าเนื้อหาของหลักธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากพระไตรปิฎก
ส่วนชื่อวิหาร ได้มาจากราชทินนามสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นเทพ ของหลวงพ่อคูณ ที่ว่า เทพวิทยาคม ซึ่งได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วิหารเทพวิทยาคม เป็นสิ่งปลูกสร้างสูง 4 ชั้น กลางบึงน้ำขนาดประมาณ 30 ไร่ ของวัดบ้านไร่ ปริมณฑลพระวิหารมีความกว้าง 60 เมตร ยาว 60 เมตร เป็นอาคารลักษณะทรงกลม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางกว้าง 30 เมตร โดยประมาณ ความสูงทั้งหมดประมาณ 40 เมตร
ชั้นดาดฟ้า ซึ่งเป็นชั้นสี่ เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อโลหะหลวงพ่อคูณยืนถือตะบอง สูงประมาณ 5 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสูง 1.6 เมตร สร้างถวายโดย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ใกล้เคียงบริเวณเดียวกันเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปยืน ปางลีลา ขนาดความสูง 7 เมตร รวมฐานวัตถุประสงค์ที่สร้างเพื่อให้วัดบ้านไร่ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมอีกแห่งหนึ่งของ จ.นครราชสีมา มีความตั้งใจกำหนดให้แล้วเสร็จ พ.ศ.2556 ในโอกาสหลวงพ่อคูณ อายุ 90 ปี
การก่อสร้างคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 240 ล้านบาท คณะกรรมการวัดบ้านไร่จึงได้มีดำริสร้างพระกริ่งเทพวิทยาคมและพระชัยวัฒน์เทพวิทยาคมขึ้น เพื่อเป็นการหาทุนการก่อสร้างในเบื้องต้น
การก่อสร้างวิหารเทพวิทยาคม หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ทำพิธีลงเสาเอก เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2555
อย่างไรก็ตาม ในการก่อสร้างและการบริหารวิหารเทพวิทยาคม นายเกรียงไกร หนึ่งในคณะกรรมการวัด กล่าวรายงานสถานะบัญชี รายรับ-รายจ่าย ลานสุคโต การก่อสร้างและการบริหารวิหารเทพวิทยาคม ณ วันที่ 20 มีนาคม 2558 มีข้อมูลที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง คือ
รายงานผลการดำเนินงาน และสถานะการเงิน บัญชีรายรับ-รายจ่าย วิหารเทพวิทยาคม ค่าก่อสร้างวิหาร จำนวน 385,537,202.49 บาท รายจ่ายค้างจ่ายค่าก่อสร้าง (หนี้ร้านค้า) จำนวน 5,143,171.50 บาท โดยในการก่อสร้างครั้งนี้ นายเกรียงไกร จารุทวี สำรองจ่ายคงเหลือ จำนวน 95,445,215.45 บาท
เมื่อรวมค่าใช้จ่ายทั้ง 2 ส่วน สรุปแล้วในการก่อสร้างวิหารเทพวิทยาคม วัดบ้านไร่ยังเป็นหนี้อีก 100,588,386.95 บาท

logoline