ตรัง-ผู้ค้าขายล็อตเตอรี่โวยรัฐ จัดสรรโควตาไม่เป็นธรรม

วันที่ 21 พ.ค.58 หลังรัฐบาลประกาศปรับโครงสร้างราคาล็อตเตอรี่ใหม่โดยมีผลตั้งแต่งวดวันที่16มิถุนายนนี้ ทำให้แผงขายล็อตเตอรี่ในเขตเทศบาลนครตรังหลายแผง ออกมาร้องขอให้มีการจัดสรรโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะผู้ค้ารายย่อยจากเดิมรายละ10เล่มหรือ1,000ใบ เหลือเพียงรายละ5เล่ม ทำให้มีรายได้ลดลง แม้จะมีกำไรใบละ9.60บาทก็ตาม โดยขอให้ทางจังหวัดมีการสำรวจผู้ค้ารายย่อย และกระจายให้ทั่วถึงไม่ให้โควต้ากับกลุ่มผู้ค้ารายใหญ่ที่นำลูกหลานและลูกจ้างในร้านไปขึ้นทะเบียนแล้วรับล็อตเตอรี่มาขาย 
ซึ่งนางเฟื่องฟ้า อินทรสังขนาวิน เจ้าของร้านมิตรสาส์นตรัง กล่าวว่า ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ต้องดูในงวดต่อไปว่าลูกค้าจะลดลงหรือไม่
ด้าน น.ส วารินทิรียา พรพิพรรธนา แม่ค้ารายย่อยร้านใกล้กัน กล่าวทั้งน้ำตาว่า พวกตนเป็นผู้ค้าปลายทางซึ่งไม่ใช่เป็นต้นเหตุของการทำให้ราคาล็อตเตอรี่สูงขึ้น จึงมองว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งตนยึดอาชีพนี้มาตั้งแต่สมัยมารดายังมีชีวิตอยู่นานกว่า20ปีแล้ว จึงขอให้รัฐบาลทบทวนมาตรการดังกล่าวเพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ค้ารายย่อยอยากให้มองที่ต้นตอของปัญหาว่าใครเป็นต้นตอทำให้ล็อตเตอรี่มีราคาแพง จนรัฐต้องออกแก้ไขปัญหา ทำให้พ่อค้ารายย่อยอย่างพวกตนได้รับความเดือดร้อนไปด้วย พร้อมร้องขอความเป็นธรรม
เช่นเดียวกับนายทักษิณ เจือกโว้น พ่อค้ารายย่อยโอดครวญขอให้รัฐบาลเข้าถึงรากฐานของผู้ค้ารายย่อยและจัดสรรโควต้าให้ได้รับความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
สำหรับการจำหน่ายล็อตเตอรี่งวดวันที่ 2 มิ.ย.58 นี้ ยังพบว่าผู้ค้าส่วนใหญ่ขายเกินราคาคือ 100-120 บาท โดยเฉพาะเลขหลวงพ่อคูณ ซึ่งขายในราคาคู่ละ 120 บาท ทั่วไป 100 -110 บาท แต่บรรยากาศทั่วไปไม่มีความคึกคัก โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ปกติจะจับจองพื้นที่ประจำวางขายกันยาวเหยียดในย่านชุมชน แต่ในวันนี้ไม่คนนำล็อตเตอรี่มาวางจำหน่ายแม้แต่รายเดียว และยังไม่มีการเดินเร่ขายเหมือนดังเช่นทุกงวดที่ผ่านมา