เวทีการระดมความเห็นและข้อเสนอต่อแผนแม่บทแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้,การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนภาคประชาชน จัดโดยคณะอนุกรรมการด้านที่ดินและป่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ซึ่งมีตัวแทนจากนักวิชาการ หน่วยงานภาครัฐ ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบกว่า 100 คนเข้าร่วม
ประธานคณะอนุกรรมการด้านที่ดินและป่า นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ เปิดเผยว่าขณะนี้ กสม.ได้รับคำร้องเรียนจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 64,66/2557 และแผนแม่บทแก้ปัญหาป่าไม้ รวม 44 คำร้องหลังจากมีการประกาศคำสั่งของ คสช.มาแค่ 8 เดือน
เนื่องจากในการปฏิบัติงานของกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชทึ่เข้าดำเนินการกับชาวบ้าน ทั้งในเขตภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ภาคตะวันออกรวม 21 จังหวัด และมีแนวโน้มการร้องเรียนผ่าน กสม.อีกจำนวนมาก โดยเฉพาะการยึดคืนที่ดินทำกินที่ชาวบ้านอยู่อาศัยและบางพื้นที่อยู่ในกระบวนการพิสูจน์สิทธิ์
นพ.นิรันดร์ บอกว่าที่ดินของชาวบ้านมีน้อยกว่าครอบครองที่ดินของนายทุนบางรายทีครองที่ดิน 5-6 แสนไร่ แต่กลับถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม รวมทั้งการตัดฟันสวนยางและให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งผลกระทบจากการออกคำสั่งที่ไม่เป็นธรรมเรื่องนี้รัฐบาลต้องรับผิดชอบ
เมื่อเร็วๆ นี้ ทาง กสม.พร้อมกับกรรมการสิทธิมนุษยชน รวม 7 คนเข้าพบตัวแทนของรัฐบาล คือพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พลเอกอุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) และพลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม (ทส.) โดยทางพลเอกดาว์พงษ์ รับปากว่าจะตรวจสอบผลกระทบที่เกิดขึ้น
สำหรับข้อร้องเรียนของชาวบ้านจากคำสั่งของ คสช.ที่ 64,66/2557 รวม 44 คำร้อง ประกอบด้วย 21 จังหวัดแบ่งเป็นภาคเหนือ 7 จังหวัด ภาคอีสาน 6 จังหวัด ใต้ 5 จังหวัด ตะวันออก1 จังหวัด ตะวันตก 1 จังหวัด