"อช.หาดเจ้าไหม" ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยว 4 เดือน เริ่ม 1 มิ.ย.
ตรัง - หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เตรียมบังคับใช้ประกาศกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ประกาศปิดสถานที่ท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมอย่างสิ้นเชิงเป็นเวลา 4 เดือน นับจาก 1 มิถุนายน ถึง 30 กันยายน 2558 หากผู้ประกอบการรายใดฝ่าฝืนนำนักท่องเที่ยวไปเที่ยว จะจับกุม เนื่องจากต้องการให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัวในช่วงฤดูมรสุม ซึ่งประกาศปิดทุกปี ไม่หวั่นกระทบการท่องเที่ยว เพราะประกาศมาล่วงหน้าตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง ประกาศปิดการท่องเที่ยวทางทะเล ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 30 กันยายนของทุกปี เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.2556 เรื่อง เปลี่ยนแปลงช่วงเวลาการปิดแหล่งท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติ (ฉบับเพิ่มเติม) โดยสั่งการให้อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมดำเนินการปิดแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้แก่ บริเวณเกาะมุก ถ้ำมรกต เกาะกระดาน เกาะเชือกและเกาะแหวน ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 30 กันยายนของทุกปี ทั้งนี้ เพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเลของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมสามารถฟื้นฟูสภาพตามธรรมชาติได้ด้วยตนเอง เป็นระยะเวลาประมาณ 4 เดือน อีกทั้งช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ อันเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสำหรับการออกไปท่องเที่ยวทางทะเล โดยทางอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมกำหนดเปิดการท่องเที่ยวใหม่อีกครั้งในวันที่ 1 ตุลาคม 2558
นายมาโนช วงศ์สุรีย์รัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งขาติหาดเจ้าไหม กล่าวว่า หลักการอุทยานคือ เราจะต้องพักการใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงได้มีการประกาศปิดการท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมจำนวน 6 แห่ง นับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 30 กันยายน 2558 อย่างสิ้นเชิง ประกอบด้วย เกาะมุก เกาะกระดาน เกาะแหวน เกาะเชือก
ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญของจังหวัดตรัง เป็นแหล่งดำน้ำชมปะการังที่มีชื่อ เป็นสถานที่จัดวิวาห์ใต้สมุทรที่มีชื่อเสียงระดับโลก และโดยเฉพาะถ้ำมรกตซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ถือเป็นอันซีนไทยแลนด์ โดยได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวรับทราบมาตั้งแต่ฤดูมรสุมปี 2557 ที่ผ่านมา ว่าในฤดูมรสุมปี 2558 อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมจะไม่ผ่อนปรนให้ผู้ประกอบการนำนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวเหมือนทุกปีที่ผ่านมาอย่างเด็ดขาด เพื่อให้ธรรมชาติได้ทำการฟื้นฟูและปรับสภาพตัวเอง และจะเปิดปกติในวันที่ 1 ตุลาคม 2558 ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป จะมีกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ไปเฝ้าระวังควบคุมไม่ให้มีการนำนักท่องเที่ยวออกไปเที่ยวทางทะเลโดยเด็ดขาด และมีกำลังส่วนหนึ่งทำหน้าที่ในการลาดตระเวนไปตามสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 6 แห่ง
ซึ่งหากพบผู้ประกอบการรายใดฝ่าฝืนนำเรือและนักท่องเที่ยวเข้าไปก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด จึงต้องขอความร่วมมือจากเรือผุ้ประกอบการท่องเที่ยวต่างๆว่าอย่าได้พานักท่องเที่ยวเข้าไป และไม่กลัวจะกระทบการท่องเที่ยวเพราะช่วงดังกล่าวเป็นช่วงหน้าฤดูมรสุม และประชาสัมพันธ์มาล่วงหน้าเป็นปีแล้ว จึงอยากให้ภาคเอกชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการท่องเที่ยว โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวด้วย เพราะการไปเที่ยวทะเลในช่วงมรสุมอาจจะไม่ได้รับความปลอดภัย
ทั้งนี้ เดิมจะมีเจ้าหน้าที่อุทยานกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 คอยจัดระเบียบการขึ้นลงเรือ แต่นับจากเดือนมิถุนายนเป็นต้นไปจะมีเพียงกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานหาดเจ้าไหมที่จะเฝ้าระวังควบคุมบริเวณท่าเทียบเรือไม่ให้มีการนำเรือและนักท่องเที่ยวออกไป และกำลังลาดตระเวนทางทะเลดำเนินการตามกฎหมายหากพบมีการฝ่าฝืนนำเรือและนักท่องเที่ยวเข้าไปบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 6 แห่งที่ประกาศปิดเท่านั้น
นายมาโนช กล่าวอีกว่า การท่องเที่ยวของตรังเป็นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศก์ มีธรรมชาติทางทะเลที่ให้ความรู้ได้หลากหลายแก่นักท่องเที่ยว จึงนิยมมาท่องเที่ยวอย่างมาก เนื่องจากธรรมชาติที่สวยงาม ค่าใช้จ่ายไม่แพงเมื่อเทียบกับที่อื่น ใช้เวลาในการท่องเที่ยวไม่นาน แนวโน้มการท่องเที่ยวก็ดีขึ้นเรื่อยๆ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นทุกปี