พระราชทานพวงมาลา ถวายแด่สรีระสังขาร พระเทพวิทยาคม

เมื่อเวลา 20.20 น.วันที่ 17 พ.ค.2558 ที่ศูนย์ประชุมเอนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น อันเชิญพวงมาลาพระราชทาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ถวายแด่สรีระสังขารพระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ภายในปะรำพิธีชั้น 2 ซึ่งเป็นสถานที่ที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้กำหนดเป็นสถานที่ของการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรม 7 วัน ระหว่างวันที่ 17-23 พ.ค.ก่อนที่จะประกอบพิธีสวดพระอภิธรรม 7 คัมภีร์ โดยพระสงฆ์ 4 รูป จากวัดเทพปูรณาราม จ.ขอนแก่น โดยมีพระราชปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายกำธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายสุวัฒน์. ลิปตพัลลภ. รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในการสวดพระอภิธรรมในคืนวันแรกวันนี้

ท่ามกลางการร่วมในการประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมวันแรกวันนี้คณะพระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ จากทั้ง จ.ขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียง รวมไปถึง คณะศิษยานุศิษย์ และประชาชนทั่วไปที่เลื่อมใสศรัทธาร่วมในการสวดพระอภิธรรม จนล้นห้องประชุมนักศึกษาจากคณะต่างๆของ มข.มาคอยให้บริการดอกไม้ ,พวงมาลัย และดอกบัว อีกทั้งที่บริเวณชั้น 1 ของศูนย์ประชุมฯยังคงมีการจัดตั้งโรงทานจากผู้มีจิตศรัทธารวมกว่า 100 ราย

รศ.ดร.กิตติชัย กล่าวว่า กำหนดการบำเพ็ญกุศล พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ นั้นจะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือในเวลา 11.00 น.ของทุกวันจะเป็นพิธีถวายภัตราหารเพล และเวลา 19.00 น.จะเป็นพิธีสวดพระอภิธรรม โดยในวันที่ 18 พ.ค. เป็นการสวดพระอภิธรรมพระสงฆ์จากวัดหนองแวง พระอารามหลวง วันที่ 19 พ.ค.พระสงฆ์ จากวัดศรีนวล วันที่ 20 พ.ค.พระสงฆ์จากวัดหนองกุง วันที่ 21 พ.ค.พระสงฆ์จากวัดธาตุ พระอารามหลวงวันที่ 22 พ.คงพระสงฆ์จากวัดศรีจันทร์ พระอารามหลวง และวันเสาร์ที่ 23 พ.ค.พระสงฆ์จากวัดวุฒาราม ขณะที่วันอาทิตย์ที่ 24 พ.ค.นั้นลำดับพิธีการจะเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น.ที่พระสงฆ์สมณศักดิ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ เวลา 11.00 น.ถวายภัตราหารเพล เวลา 13.00 น.ฟังพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ เวลา 14.00 น.ทอดผ้าบังสุกุล-วางดอกไม้จันทน์เคารพศพ และเวลา 15.00 น.พิธีมอบศพให้กับภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มข.ตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรมทั้งหมด

สำหรับการตั้งจุดรับบริจาคตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรมนั้นได้จัดตั้งไว้ที่บริเวณด้านหน้าฝั่งประตูทางเข้าหรือจุดรับดอกไม้ และบริเวณด้านข้างฝั่งประตูทางออก หลังจากการขอขมาและเคารพสรีระสังขารแล้วเสร็จ โดยรายได้ทั้งหมดจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือการใช้ในจัดพิธีทางศาสนาในการบำเพ็ญกุศล ซึ่งคณะแพทยศาสตร์ มข.ทำการทดลองจ่ายไปก่อน และอีกส่วนหนึ่งคือการบริจาคเข้ากองทุนวงฆ์อาพาธ เพื่อช่วยเหลือพระภิกษุสงฆ์ที่อาพาธและเข้ารับการรักษาที่ รพ.ศรีนครินทร์ มข.