พิจิตร-ติดตามตรวจบัญชีเงินวัดบางคลาน

จากที่กรณี สมเด็จพระมหารชมังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ วัดปากน้ำภาษีเจริญ ได้ลงนามในหนังสือที่ จภ.62/2557 ให้พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ ออกจาการเป็นเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร แล้วเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2557 โดยมีการสอบสวนเรื่องร้องเรียนที่ผ่านขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมหรือ ขึ้นศาลจำนวนถึง 28 คดี ตั้งแต่ปี 2546 ที่ผ่านมา และมีคดีที่ตัดสินแล้วให้จำคุกแต่ให้รอลงอาญาไว้ก่อน อย่างเช่นคดีหมิ่นประมาทเป็นต้น ประพฤติตนไม่เหมาะสมต่อสมณเพศ และการใช้จ่ายเงินของวัด พร้อมกับหนังสือนี้ให้เจ้าคณะอำเภอฯได้นำคำสั่งแจ้งแก่พระครูวิสิฐสีลาภาณ์ และพระภิกษุ สามเณร ทายก ทายิกาแห่งวัดหิรัญญาราม ตลอดจนให้ผู้ที่พ้นหน้าที่เจ้าอาวาสดังกล่าวส่งมอบงานเอกสาร และอื่นๆให้แก่ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหิรัญญารามต่อไป
โดยพระครูพิศาลจริยคุณ รองเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร พระครูวิรุฬห์ธรรมมา เจ้าคณะอำเภอโพทะเล พระครูพิสุทธิวราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดหนองดง อ.โพทะเล และเป็นรองเจ้าคณะอำเภอโพทะเล และรักษาการเจ้าอาวาสวัดบางคลาน นายประพันธ์ ตั้นวัฒนา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาพิจิตร ทหารกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ประจำจังหวัดพิจิตร เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ จำนวนกว่า 30 นาย เข้าติดตาม ความคืบหน้า ในการบริหารงานในวัดบางคลาน พร้อมทั้งการส่งมอบยอดเงินในบัญชี จากทั้งหมด 214 ล้านบาท ที่ทางคณะกรรมการตรวจสอบ ได้ทำการอายัดเงินวัดบางคลานไว้ก่อนหน้านี้ 74 ล้านบาท ซึ่งทางพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม ยังไม่มีการทำบัญชีส่งให้ทางคณะกรรมการตรวจสอบ หลังจากออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางคลาน
 ทั้งนี้ ทางคณะสงฆ์ พร้อมกับตัวแทนเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาพิจิตร ทหาร ตำรวจ ได้เข้าไปประชุม ในกุฎิของอดีตเจ้าอาวาส ซึ่งไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้าร่วมรับฟัง ท่ามกลางลูกศิษย์ของอดีตเจ้าอาวาส ชาวบ้าน ที่ส่วนใหญ่ เป็นผู้ประกอบการร้านค้า จำหน่ายอาหาร วัตถุมงคล ภายในวัด จำนวน กว่า80คน ที่ไม่เห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบ เข้าตรวจสอบกิจการภายในวัดบางคลาน ซึ่งการประชุม ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง
นายประพันธ์ ตั้นวัฒนา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาพิจิตร ระบุว่า ทางคณะกรรมการตรวจสอบ ที่จัดตั้งจากทางจังหวัดพิจิตร ประกอบด้วย คณะสงฆ์ และ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และ ฝ่ายปกครอง ในพื้นที่โดยในที่ประชุม ของคณะกรรมการ มีมติว่าข้อ 1 จะไม่ย้ายสถานที่จำหน่ายวัตถุมงคล ขึ้นวิหารขาว แต่ให้ทางวัดทำบัญชียอดการจำหน่ายพระเครื่อง พระบูชา ให้กับคณะกรรมการตรวจสอบ
ข้อ 2 มอบกุญแจตู้บริจาค โดยจะให้คณะกรรมการ อดีตไวยาวัจกร ชุดเก่ามาร่วมทำงาน กับไวยาวัจกร ชุดใหม่ บริหารบัญชีในวัดบางคลาน และข้อ 3 ทางอดีตเจ้าอาวาส และคณะกรรมการจะทำการส่งมอบสมุดบัญชีการเงินทางธนาคาร ให้กับคณะกรรมการซึ่งเป็นคณะสงฆ์ ตรวจสอบบัญชีของทางวัดจำนวน214ล้านบาท ที่ทางคณะกรรมการตรวจสอบ ได้อายัดเงินไว้ 74 ล้านบาท ในส่วนที่เหลือจากอายัด 140 ล้านบาท ในสัปดาห์หน้า
ขณะที่บรรยากาศภายในวัด บรรดาลูกศิษย์ของอดีตเจ้าอาวาส ชาวบ้าน ที่ส่วนใหญ่ เป็นผู้ประกอบการร้านค้า จำหน่ายอาหาร วัตถุมงคล ภายในวัดมีการโต้เถียง กับทางคณะกรรมการตรวจสอบ แต่ไม่เกิดเหตุรุนแรง ส่วนบริเวณวิหารหลวงพ่อเงิน ยังคงมีนักท่องเที่ยวและประชาชน มากราบไหว้องค์หลวงพ่อเงิน ตามสถานที่ภายในวัดอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งบรรดาลูกศิษย์ของพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน ส่วนหนึ่งมาให้กำลัง ที่กุฎิเจ้าอาวาสวัดบางคลาน ซึ่งทางอดีตเจ้าอาวาสเอง ยังคงจำวัด ที่วัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลานต่อ