svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

คุก 2 ปี 6 เดือน "น้องชายธาริต" คดีแอบอ้างเบื้องสูง

14 พฤษภาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

14 พ.ค. 58 --- น้องชายธาริต รับสารภาพ คดีแอบอ้างเบื้องสูง ร่วมป๋าชื่น กว้านซื้อที่ดินโคราช ศาลจำคุก 2 ปี 6 เดือน ส่วน ป๋าชื่น ให้การปฏิเสธสู้คดี


ที่ห้องเวรชี้ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 14 พ.ค.58 เวลา 11.45 น. ศาลนัดสอบคำให้การจำเลยคดีหมิ่นเบื้องสูง หมายเลขดำ อ.1666/2558 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายเสฏฐวุฒิ หรือติ๊ก เพ็งดิษฐ์ อายุ 52 ปี อาชีพนายหน้าค้าที่ดิน น้องชายนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และนายบุญธรรม หรือป๋าชื่น บุญเทพประทาน อายุ 65 ปีนักธุรกิจด้านที่ดิน เป็นจำเลยที่ 1 - 2 ในความผิดฐานดูร่วมกัน หมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112ตามฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 12 พ.ค.58 บรรยายพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า ระหว่างปี 2550 2551 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัดต่อเนื่องกัน ที่ดินบริเวณเขาหนองเชื่อม ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
มีบางส่วนที่สภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชัน บางส่วนเป็นเป็นพื้นที่ทับซ้อนกับที่ดินที่ฝ่ายทหารมีหนังสือขอใช้พื้นที่อย่างเป็นทางการเมื่อปี 2534 และบางส่วนเป็นพื้นที่ที่คณะกรรมการจัดสรรดินแห่งชาติกันไว้เพื่อใช้เป็นพื้นที่ทดแทนพื้นที่ต้นน้ำ ซึ่งไม่สามารถออกเป็นโฉนดที่ดินได้ ต่อมานายบุญธรรม จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าของและกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท บ้านชุมทอง จำกัด และบริษัท เขาใหญ่ เบเวอร์ลี่ฮิลล์ จำกัด ที่ประกอบธุรกิจจัดสรรและค้าขายที่ดิน มีความประสงค์จะนำที่ดินดังกล่าวมาขอออกโฉนดที่ดินเพื่อจัดสรรจำหน่ายให้กับผู้ที่ต้องการซื้อที่ดินไปปลูกบ้านพักตากอากาศในราคาสูง เพื่อทำกำไรได้มากๆ โดยนายบุญธรรม จำเลยที่ 2 ได้ร่วมมือกับนายเสฏฐวุฒิ จำเลยที่ 1 ให้ไปดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินบริเวณดังกล่าวเนื้อที่หลายร้อยไร่ ซึ่งจำเลยที่ 2 พูดกับจำเลยที่ 1 บางตอนว่า จำเลยที่ 2 มีความสนิทสนมกับ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีต รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของอดีตหม่อมศรีรัศมิ์(ขณะเกิดเหตุ) หากจำเลยที่ 1 มีปัญหา หรืออุปสรรคในขั้นตอนใดๆ ในการขอออกโฉนดที่ดินให้บอกจำเลยที่ 2 ได้ทันที ทั้งนี้ถ้อยคำดังกล่าวของจำเลยที่ 2เป็นการแอบอ้าง จาบจ้วง ล่วงเกิน ใส่ร้าย ใส่ความดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง เพื่อให้ตนเองสมประโยชน์
โดยศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้งสองฟังแล้วสอบคำให้การ ปรากฏว่า นายเสฏฐวุฒิ จำเลยที่ 1ให้การรับสารภาพ ส่วนนายบุญธรรม จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี
ศาลจึงพิพากษาเฉพาะในส่วนของนายเสฏฐวุฒิ จำเลยที่ 1 ว่ากระทำผิดจริง ตาม ม. 112 ให้จำคุก 5 ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษกึ่งหนึ่ง จึงจำคุก 2 ปี 6 เดือน
ส่วนนายบุญธรรม จำเลยที่ 2 ที่ให้การปฏิเสธสู้คดีนั้นศาลให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราว เพื่อให้พนักงานอัยการโจทก์ ยื่นฟ้องคดีนายบุญธรรม เข้ามาใหม่ภายใน 7 วัน ตามกฎหมาย
ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนพิจารณาแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ก็ได้นำตัวจำเลยทั้งสอง ไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ฯ โดยตลอดระยะเวลาการพิจารณาคดีในศาล จำเลยทั้งสองก็ไม่เคยได้รับการปล่อยชั่วคราวแต่อย่างใด

logoline