ช่วยโรฮิงญา 1,400 คน นอกชายฝั่งอินโด-มาเลเซีย

เรือทั้ง 4 ลำที่บรรทุกชาวโรฮิงญาเกือบ 1,400 คนน่าจะถูกปล่อยไว้กลางทะเล เนื่องจากประเทศไทย ซึ่งมักเป็นจุดหมายหลักของชาวโรฮิงญา กำลังพยายามปราบปรามกระบวนการลักลอบค้ามนุษย์ที่ส่งชาวมุสลิมโรฮิงญาไปยังประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ หลังจากขุดพบศพจำนวนมากในหลุมศพขนาดใหญ่บนยอดเขาแก้ว จังหวัดสงขลา ทางภาคใต้
ตำรวจเมืองลังกาวีของมาเลเซีย เปิดเผยว่า ผู้อพยพกว่า 1,000 คนจากบังกลาเทศและเมียนมาร์ไปถึงมาเลเซีย หลังเรือของแก๊งค้ามนุษย์พาพวกเขามาปล่อยที่บริเวณน้ำตื้นนอกชายฝั่งเกาะลังกาวี โดยคาดว่าเรือ 3 ลำบรรทุกผู้อพยพ 1,018 คนแต่จำนวนอาจอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก
ขณะที่ในเช้ามืดวันนี้ หน่วยค้นหากู้ภัยของอินโดนีเซียพบเรืออีกลำลอยอยู่นอกชายฝั่งทางตะวันออกของจังหวัดอาเจะห์ โดยมีผู้ชาย ผู้หญิงและเด็กจากเมียนมาร์และบังกลาเทศบนเรือราว 400 คน พวกเขาได้รับอาหารและการตรวจร่างกาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกำลังตรวจสอบสถานะของพวกเขา และทางการคาดว่าจะยังมีผู้อพยพล่องเรือเข้ามาอีก และได้ว่าจ้างให้ชาวประมงช่วยลาดตระเวนชายฝั่งของจังหวัดด้วย เพื่อจะได้สามารถช่วยกู้ภัยได้ทันทีที่ได้รับแจ้ง
นอกจากนี้ทางการอินโดนีเซียแจ้งวันนี้ปรับเพิ่มตัวเลขผู้อพยพที่ได้รับการช่วยเหลือขึ้นฝั่งที่ทางเหนือของอาเจะห์เมื่อวันอาทิตย์จากเกือบ 400 คนเป็น 573 คน ชาวมุสลิมโรฮิงญาคนหนึ่ง ที่ได้รับการช่วยเหลือบอกว่ากลุ่มของพวกเขาขึ้นเรือในไทยและมุ่งหน้าไปมาเลเซีย ก่อนถูกพวกแก๊งค้ามนุษย์ปล่อยพวกเขาไว้กลางทะเลโดยมีน้ำมันเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย และบอกให้ว่ายขึ้นฝั่งเอง
ผู้อพยพหลายพันคนมักเสี่ยงอันตรายข้ามทะเลจากเมียนมาร์เข้าสู่ภาคใต้ของไทย และตั้งเป้ามุ่งหน้าไปยังมาเลเซียที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม แต่หลายคนตกเป็นเหยื่อของแก๊งค้ามนุษย์ในไทย
คริส เลวา จากโครงการดิ อารากัน ที่เป็นองค์กรส่งเสริมสิทธิมนุษยชนชาวโรฮิงญาให้ความเห็นว่า อาจมีผู้อพยพหลายพันคนลอยอยู่กลางทะเล หลังทางการไทยและมาเลเซียพยายามปราบปรามกระบวนการลอบค้ามนุษย์ช่วงหลายเดือนนี้ และประเทศไทย พยายามป้องกันไม่ให้แก๊งลอบค้ามนุษย์ดำเนินธุรกิจได้อีกต่อไป ทำให้คนเหล่านั้นต้องหาทางไปที่ไหนสักแห่ง พวกนายหน้าค้ามนุษย์จะใช้เรือเป็นค่ายผู้อพยพ