เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร นายศศิน เฉลิมลาภ บอกว่า เป็นห่วงว่า การแก้ไข(ร่าง)พระราชบัญญัติส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าและ (ร่าง)พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะทำลายหลักการจัดการและใช้ประโยชน์ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทั้งหมด
เพราะพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติส่วนใหญ่เป็นเขตป่าสงวน และหวงห้ามในการรักษาระบบนิเวศทรัพยากรธรรมชาติ แต่กฎหมายทั้ง 2 ฉบับให้อำนาจอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และหัวหน้าอุทยานแห่งชาติในการกำหนดเขตบริการแล้วส่งต่อให้เอกชนสามารถเข้ามาทำบ้านพักหรือรีสอร์ทรองรับนักท่องเที่ยวได้ จึงเป็นการเปิดช่องโหว่ให้ผู้มีอิทธิพลจากภายนอกใช้เป็นช่องทางแสวงหาผลประโยชน์ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ยังผ่อนปรนให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่เดิมเป็นพื้นที่สงวนรักษาเพื่อการอนุรักษ์เท่านั้น แต่เปิดให้ดำเนินการผ่านประกอบกิจการสวนสัตว์ ทำให้เกิดการล่าสัตว์ป่าและทำธุรกิจค้าสัตว์ป่ามากขึ้นในประเทศไทย
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้ทำหนังสือคัดค้านและขอให้ชะลอการปรับแก้ไขกฏหมาย 2ฉบับ เพื่อให้ปรับปรุงแก้ไขและเปลี่ยนวิธีคิดให้เกิดการอนุรักษ์มากกว่านี้แทนการเปิดให้มีการเข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่อนุรักษ์
ขณะที่ ผู้แทนกองนิติการ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช บอกว่า กฎหมายทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว กรมอุทยานฯอยู่ระหว่าง ปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพขึ้น โดยจะเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนอีกครั้งภายในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและไม่กระทบภาพรวมของสัตว์ป่า