ลุงเมืองแปดริ้ว ทุบโต๊ะด่ากราด จนท.ศูนย์ดำรงธรรม

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2558 เวลา 11.30 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ (ศูนย์ดำรงธรรม) ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 อาคารศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทราหลังใหม่ ได้มีชายวัยสูงอายุส่งเสียงโวยวายดังลั่น พร้อมใช้มือทุบลงที่โต๊ะทำงานของเจ้าหน้าที่ และด่ากราดข้าราชการที่กำลังนั่งทำงานรับเรื่องราวร้องเรียนจากประชาชน รวมถึงผู้ได้รับความเดือดร้อนในด้านต่างๆ ที่กำลังเข้ามานั่งรอการใช้บริการจำนวนหลายสิบคน

ทราบชื่อชายดังกล่าวในเวลาต่อมา คือ นายธนวัฒน์ เตียวกูลรัตน์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/3 ม.1 ต.ท่าทองหลาง อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งได้เข้ามายื่นหนังสือร้องเรียนต่อทางศูนย์ดำรงธรรม ลักษณะเป็นไปในเชิงข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 เม.ย.58 ที่ผ่านมาไปถึงยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่ปรากฏว่า ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ผู้รับเรื่องยังไม่ได้มีการส่งเรื่องผ่านขึ้นไปถึงยังผู้ราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อส่งต่อไปยังรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด

โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงว่า จากหนังสือที่ทางฝ่ายผู้ร้องเรียนยื่นขอเสนอแนะมานั้น ยังไม่มีรายละเอียด หรือแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนเพียงพอที่จะสรุปเพื่อส่งต่อไปถึงยังผู้ว่าราชการจังหวัด และรัฐบาลต่อไปได้ จึงยังต้องรอให้ทางฝ่ายของนายธนวัฒน์ ผู้เสนอแนะนั้นได้มาเขียนแนวทางข้อเสนอแนะเพิ่มเติมอีก จึงทำให้นายธนวัฒน์ เกิดความไม่พอใจในความล่าช้าดังกล่าว จึงได้ส่งเสียงโวยวาย และทุบโต๊ะดังลั่น พร้อมดากราดเจ้าหน้าที่ภายในสำนักงานศูนย์ดำรงธรรมดังกล่าว

ขณะเดียวกันหลังผู้สื่อข่าวได้ทำการตรวจสอบข้อความภายในหนังสือร้องเรียน ดังกล่าวแล้ว และไม่พบประเด็นที่เป็นแนวทางที่ชัดเจนในการเสนอแนะวิธีการแก้ไขปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จริงตามที่เจ้าหน้าบอกแต่อย่างใด

และเมื่อสอบถามไปยัง นายธนวัฒน์ ถึงขอเสนอแนะหรือแนวทางที่ต้องการอยากเสนอไปยังฝ่ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ ว่าจะมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาได้อย่างไร แต่นายธนวัฒน์ กลับปฏิเสธที่จะเปิดเผยถึงแนวทางของตน โดยระบุว่า ต้องการที่จะพูดคุยเพื่อเสนอแนวทาง ต่อพลเอกประยุทธ์ เพียงลำพังแบบตัวต่อตัว โดยที่ไม่ต้องการที่จะเปิดเผยวิธีการต่อเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชน

จนเวลาผ่านไปนานกว่า 1 ชม. จึงได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจาก สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้เข้ามาเชิญตัว นายธนวัฒน์ ออกไปจากภายในห้องรับเรื่องราวร้องทุกข์ศูนย์ดำรงธรรม จ.ฉะเชิงเทรา เหตุการณ์จึงสงบลงได้ในที่สุด