นายกฯ หวังอียูให้โอกาส แก้ปัญหาประมง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูดถึงกรณีสหภาพยุโรปหรืออียู ให้เวลาไทย 6 เดือน ปรับการป้องกันและกำจัดการทำประมงผิดกฎหมาย หากไม่ดำเนินการอาจสั่งห้ามนำเข้าสินค้าประมงจากไทยว่า ปัญหาเรื่องนี้ถูกจับตามานาน เชื่ออียูจะให้โอกาส เพราะที่ผ่านมารัฐบาลได้แก้ปัญหาไปมากแล้ว แต่ยังมีความล่าช้า เรื่องการขึ้นทะเบียนพิสูจน์สัญชาติ จึงต้องแก้ไขการประมงไทยให้มีคุณภาพมากขึ้นโดยภาคเอกชนต้องร่วมมือกับรัฐในการจดทะเบียนเรือประมง และตรวจสอบไม่ให้มีการค้ามนุษย์ ซึ่งเรื่องนี้มีกฎหมายเกี่ยวข้องหลายฉบับ และบางส่วนยังอยู่ในการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

นายกรัฐมนตรี บอกว่า สิ่งที่รัฐบาลทำได้คือการใช้ มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว เพื่อตั้งศูนย์ลงทะเบียนร่วม กำหนดให้ลงโทษผู้กระทำผิดสถานหนัก รวมถึงบังคับให้ปรับปรุงเรือประมงให้ได้มาตรฐาน และติดอุปกรณ์ติดตามตำแหน่งหรือ VMS เพื่อตรวจสอบให้มีการทำประมงในเขตสัมปทานที่กำหนดไว้เท่านั้น เพื่อช่วยเหลือเรือประมงขนาดเล็ก และประมงพื้นบ้านให้สามารถอยู่รอดได้ ซึ่งเงื่อนเวลา 6 เดือน ขึ้นอยู่กับว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะภาคเอกชน

พล.อ.ประยุทธ์ บอกได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง พูดคุยกับกองทัพของประเทศในกลุ่มอาเซียน เพื่อจัดกองเรือในการทำประมงร่วมกันรูปแบบ Joint Venture เพื่อลดปัญหาการค้ามนุษย์ โดยจะเริ่มการพูดคุย ระหว่างหารือกับประธานาธิบดีอินโดนีเซียในวันนี้ ซึ่งไทยพร้อมร่วมมือกับอินโดนีเซียในการพัฒนาความสัมพันธ์รอบด้าน เพื่อประโยชน์ร่วมกันและของภูมิภาค แก้ปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำต่างประเทศ โดยถือเป็นวาระแห่งชาติ