กมธ.ยกร่างฯ ปัด ม.207 เกิดรัฐราชการ

คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรม แจงการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการโดยระบบคุณธรรม ไม่ได้เป็นระบอบอมาตยาธิปไตยอย่างที่หลายฝ่ายกังวล เชื่อจะเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมืองและประชาชน ขณะที่สมาชิกท้วงติงว่าแม้จะเห็นด้วยแต่ไม่ควรตัดอำนาจรัฐมนตรีออกไป
บรรยากาศการอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกในช่วงบ่ายวันนี้ ยังคงอภิปรายในหมวดแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ซึ่งสมาชิกสปช. ได้ท้วงติงถึงบทบัญญัติที่ให้มีคณะกรรมการดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการโดยระบบคุณธรรม ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง ปลัดกระทรวงและอธิบดี ว่าจะเป็นระบอบอมาตยาธิปไตย ให้ข้าราชการมีอำนาจเหนือฝ่ายบริหารหรือไม่ โดยประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นอย่างที่หลายฝ่ายกังวล อำนาจเด็ดขาดสูงสุดยังอยู่ที่นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่คณะกรรมการชุดดังกล่าว
จากนั้น กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ปรีชา วัชราภัย ได้ชี้แจงรายละเอียด ว่าในอดีต การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการเป็นอำนาจของรัฐมนตรี ซึ่งจะไม่พบปัญหาหากเป็นไปตามหลักอาวุโสและความรู้ความสามารถ โดยยกตัวอย่างกรณีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย คณะกรรมาธิการจึงบัญญัติให้มีกรรมการดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการโดยระบบคุณธรรม จำนวน 7 คน คัดเลือกบุคคลจำนวน 3 คน ส่งให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา หากนายกฯเห็นว่าไม่เหมาะสม สามารถส่งกลับให้คณะกรรมาการฯทบทวนได้ ซึ่งเชื่อว่าระบบนี้จะเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมืองและประชาชน
ด้านกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เจษฎ์ โทณวนิก ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การบัญญัติให้มีคณะกรรมาการชุดนี้ เพื่อให้เกิดความซื่อสัตย์ และไม่เชื่อมโยงกับการเมืองโดยตรง เป็นการสร้างความเป็นธรรมให้กับประชาชน
ขณะที่ สมาชิกสปช. ด้านการศึกษา ณรงค์ พุทธิชีวิน ได้ท้วงติงว่าแม้จะเห็นด้วยว่าควรมีคณะกรรมการชุดนี้ แต่เห็นควรให้รัฐมนตรีประจำกระทรวงรับทราบและแสดงความเห็นชอบก่อนที่จะเสนอรายชื่อต่อนายกรัฐมนตรี ไม่ควรตัดอำนาจรัฐมนตรีในการโยกย้ายข้าราชการออกไปเลย