"สมบัติ" ชี้ 5 จุดเสี่ยงร่างรัฐธรรมนูญ

สำหรับการอภิปรายร่างแรกของรัฐธรรมนูญ ในภาค 2 ที่ว่าด้วยผู้นำทางการเมืองที่ดี ซึ่งประเดิมวันแรกวานนี้ สปช.ส่วนใหญ่ขอให้ปรับแก้ประเด็นที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก อย่างรัฐบาลผสมที่ถูกมองว่า จะทำให้ได้รัฐบาลที่อ่อนแอลง โดยประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เสรี สุวรรณภานนท์ ตั้งคำถามว่า การให้มีรัฐบาลผสม จากหลายพรรค จะทำให้รัฐบาลเข้มแข็งได้อย่างไร

รวมถึงการให้กลุ่มการเมืองสมัคร ส.ส.ได้ จะเกิดปัญหา เพราะที่ผ่านมา กลุ่มการเมืองมีส่วนทำให้เกิดความแตกแยก ถ้าออกกฎหมายให้กลุ่มการเมืองเล่นการเมืองได้ คนกลุ่มนี้จะไปตั้งกลุ่มขึ้นมา

ซึ่งคุณเสรี ยกตัวอย่างอย่างกรณี กลุ่ม นปช. และ กปปส.ซึ่งมีฐานเสียงเป็นจำนวนมาก ต่อไปคนที่จะตั้งรัฐบาลอาจจะเป็น นปช. กปปส. และนายกรัฐมนตรี อาจจะเป็นประธาน นปช. จตุพร พรหมพันธุ์ หรือถ้าพระสุเทพไม่สึกก็อาจจะมีตัวแทน กปปส. เป็นนายกรัฐมนตรี

ขณะที่ประธานกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ได้ชี้ให้เห็นถึง 5 จุดเสี่ยง คือ 1.ขาดความสมดุลระหว่างอำนาจฝ่ายบริหารและอำนาจนิติบัญญัติ 2.การออกแบบรัฐบาลผสมที่ไม่เข้มแข็ง จะทำให้พรรคแกนนำที่จัดตั้งรัฐบาลได้รับเสียงในสภาเกินกึ่งหนึ่งมาเล็กน้อย จะมีอำนาจมากเกินไป และหากไม่มีพรรคไหนได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง จะเกิดกระบวนการแบ่งโควต้าตำแหน่งรัฐมนตรีในพรรคขนาดเล็ก 3. การนำหลักการแบ่งแยกอำนาจในระบบประธานาธิบดีมาใช้กับระบบรัฐสภา หรือการกำหนดให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต้องไม่เป็น ส.ส. 4.กลไกลตรวจสอบอ่อนแอ โดยเฉพาะการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และ 5.การกำหนดให้นายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องเป็น ส.ส.
ด้านโฆษกกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช บอกว่า ข้อมูลที่สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติอภิปรายเป็นประโยชน์มาก สำหรับรูปแบบที่กรรมาธิการยกร่างฯ ออกแบบไว้ เป็นเรื่องค่อนข้างใหม่ ที่ต้องอาศัยการทำความเข้าใจ ซึ่ง สปช.สามารถส่งข้อเสนอเพื่อปรับแก้ได้ โดยสมาชิกที่แปรญัติ จะประกอบด้วย ผู้เสนอญัตติ 1 คน และผู้สนับสนุน 25 คน

แต่ยืนยันว่า ระหว่างการอภิปรายในแต่ละวัน ทางกรรมาธิการยกร่างฯ จะนำประเด็นต่าง ๆ ที่สปช.อภิปรายมาพูดคุยร่วมกันทุกเช้า เพื่อเตรียมข้อมูลและเก็บไว้ประกอบการพิจารณา